การขึ้นศาลเพียง 2 วันหลังจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าวสรุปตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่เกือบ 3 แสนล้านบาท
วานนี้ (3 ส.ค.) คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าวที่มีนายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงและความผิดทางละเมิด สรุปตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีตัวเลขความเสียหายอยู่ที่ 286,639 ล้านบาท
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพวกรวม 6 คน อยู่ที่ 18,743 ล้านบาทเศษ รวมแล้วเกือบ 3 แสนล้านบาท กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 นอกเหนือจากคดีอาญา
หลังจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ แถลงตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ถ่ายทอดความรู้สึกก่อนที่จะขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 5 ส.ค.นี้ว่า "ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับชีวิตดิฉัน ทุกอย่างก็วิ่งเข้ามา เวลาก็ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที บางครั้งมันทำให้รู้สึก เหนื่อย ท้อ แต่เราก็บอกกับตัวเองว่าเราจะป่วย เราจะท้อ เราจะหมดกำลังใจไม่ได้ เพราะยังมีผู้คนอีกมากที่เขายังคอยให้กำลังใจเรา เห็นการแสดงออกของพี่น้องประชาชนทุกครั้งที่เจอกัน ทั้งที่ดิฉันไปพบตามจังหวัดต่างๆ หรือมารอพบที่หน้าศาลฯ แม้แดดจะร้อนฝนจะตกทุกคนก็ยังรอจนดิฉันเดินทางกลับ ซึ่งดวงตาทุกคู่ที่มองมานั้น มีความหมายต่อดิฉันมากค่ะ"
"ดิฉันจึงบอกตัวเองว่าเราต้องเข้มแข็งเพื่อพิสูจน์ตัวเอง บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาเพราะทุกอย่างไม่สามารถที่อธิบายหรือทำให้คนเข้าใจได้ในวันเดียว ดังนั้นจึงต้องมีความอดทน และดิฉันก็เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้
เหลือเวลาอีกเพียงสองวัน ดิฉันจะต้องขึ้นศาลฯ เพื่อแถลงเปิดคดีและตอบคำถามฝ่ายโจทก์ด้วยตัวเองค่ะ ครั้งนี้อยากจะบอกว่าต้องการกำลังใจจากพี่น้องประชาชนและแฟนเพจด้วยนะคะ"
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลมีหน้าที่สรุปข้อมูลเพื่อส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่มีการล้มคดี โดยผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิต่อสู้คดี
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า หากพิจารณา ตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการรับจำนำข้าวจะมีเชื่อว่าจะมีมากกว่าที่ประเมินไว้ โดยเฉพาะหากเก็บข้าวเอาไว้เป็นเวลานาน ทำให้ข้าวเสื่อมสภาพ และมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา
ก่อนหน้านี้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ประเมินว่า โครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งแต่ปี 53/54 และ 54/55 มีความเสียหายเกิดขึ้นเกือบ 6 แสนล้านบาท
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายประมาณ 7-8 แสนล้านบาททั้งจากการขายข้าวในราคาต่ำกว่าทุนและปัญหาการทุจริต ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ
นายชูเกียรติ ระบุด้วยว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นบทเรียนสำคัญในการกำหนดนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร ที่จะต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาด เพราะนอกจากสร้างความเสียหายต่องบประมาณจำนวนมากแล้วยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องด้วย