ปีนี้มีคุณแม่ดาราคลอดลูกติดๆ กันหลายคน เริ่มตั้งแต่ต้นปีซุปเปอร์สตาร์สาว อมิตา ทาทา ยัง คลอดน้องเรลูกชายคนแรก ห่างกัน 4 เดือน นางเอกสาวกระแต ศุภักษร ก็คลอดน้องเจ้าขา ลูกสาวคนแรก ของครอบครัว และเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ และแอน อลิชา ก็คลอดลูกห่างกันเพียง 5 วัน
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดนอกจากความสุขของบรรดาคุณแม่ดาราแล้ว นั่นคือการให้ลูกกินนมแม่ หากติดตามความเคลื่อนไหวในอินสตาแกรมจะเห็นภาพการให้นม และความพยายามเก็บสต๊อกนมของเหล่าคุณแม่ทุกคน
อมิตา ทาทา ยัง ให้น้องเรกินนมแม่ล้วน ถึงอายุ 6 เดือน ก่อนจะให้อาหารเสริมตามวัยควบคู่กับนมแม่ ทาทาเป็นคุณแม่ดาราที่มีวินัยในการปั๊มนมสม่ำเสมอ เธอจึงมีนมสต็อกเก็บไว้เต็มตู้
ขณะที่คุณแม่กระแต ศุภักษร ได้การสนับสนุนจากเพื่อนดาราที่มีประสบการณ์ให้นมแม่ ในการกระตุ้นในเธอหมั่นปั๊มนมทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มีน้ำนมมากขึ้น ตามหลักการปั๊มออกมากก็จะผลิตมาก
อลิซาเบธ แซ๊ดเลอร์ หรือลิซ่า คุณแม่ดาราอีกคนที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจให้ลูกกินนมแม่ ลิซ่าเปิดใจกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เคยตั้งเป้าไว้ว่า จะให้น้องอลิซ ลูกสาว กินนมแม่ถึงอายุ 1 ขวบ แต่เมื่อปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีการจำกัดระยะเวลา น้องอลิซก็ยังกินนมแม่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน คือ 2 ปี 4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลิซ่าบอกว่ามีความสุขมาก
“น้องอลิซจะใช้เวลาดูดนมประมาณ 10-15 นาที เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก เพราะขณะที่ลูกกินนม เราได้มองตากัน คุยกัน และยิ้มให้กัน”
ลิซ่าเป็นคนหนึ่งที่มักจะโพสต์รูปเกี่ยวกับการให้นมแม่เสมอ และหลายโพสต์เธอจะให้ข้อมูลเรื่องนมแม่ และให้กำลังใจกับแฟนๆ ที่มาติดตาม เมื่อเข้ามาขอคำปรึกษา
ลิซ่าเปิดเผยว่า ก่อนจะประสบความสำเร็จในการให้นมลูก เหมือนทุกวันนี้ เธอต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง เพราะในอดีตจะมีเพียงสิ่งที่บอกต่อๆ กันมา ว่านมแม่มีประโยชน์เพียง 3-6 เดือน และนมแม่มีไม่เพียงพอ ซึ่งจำเป็นต้องเสริมด้วยนมผง
เมื่อถามลิซ่าถึงการโพสต์รูปการให้นมแม่ของบรรดาคุณแม่ดาราว่า จะทำให้กระแสการให้นมแม่ มีมากขึ้นหรือไม่ ลิซ่ากล่าวว่า เป็นเรื่องดีมาก เพราะจะเป็นการสร้างความเข้าใจและปลูกฝังคนในสังคมว่า นมที่ดีที่สุดสำหรับลูกคือนมแม่ การแบ่งเวลาปั๊มนมของคุณแม่ดาราก็เป็นตัวอย่างที่ดีของคุณแม่ที่ทำงานเต็มตัว และเชื่อว่าถ้าดารา สื่อ และเครือข่ายนมแม่ร่วมมือกันในการให้ความรู้เรื่องนมแม่ ก็จะทำให้เด็กไทยเข้าถึงนมแม่มากขึ้น
ด้าน พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ด้านทารกแรกเกิด กล่าวว่า รู้สึกชื่นชมคุณแม่ดารา ที่ศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเรื่องนมแม่อย่างละเอียด ก่อนนำไปถ่ายทอดสู่สังคม เพราะยังมีคุณแม่จำนวนมากที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้สำเร็จ และต้องหันไปพึ่งนมผง ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การให้นมแม่ไม่สำเร็จ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ขาดทักษะและความรู้เรื่องนมแม่ ไม่สามารถอธิบายและปฏิบัติตามขั้นตอนของการให้นมแม่ได้ตั้งแต่หลังคลอด
“เด็กแรกเกิดเมื่อคลอดแล้วสามารถนำลูกมาดูดกระตุ้นที่เต้านมของแม่ได้ทันที ดูดบ่อยๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง ดูดไปเรื่อยๆ น้ำนมแม่จะมาเอง น้ำหนักช่วงแรกของทารกจะลดลง ซึ่งลดลงได้ร้อยละ 10ของน้ำหนักแรกเกิด ก็เป็นเรื่องปกติ นี่คือความรู้ที่จะทำให้แม่ผลิตน้ำนมได้โดยไม่ต้องเสริมนมผง”
พญ.สุธีราเชื่อว่า ปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำ "Code นมแม่" หรือ หลักเกณฑ์สากลว่าด้วยการตลาดอาหารทดแทนนมแม่ (International Code of Marketing of Breast-Milk Substitutes) มาบังคับใช้โดยเร็ว หากบุคลากรทางการแพทย์ทำตามหลักเกณฑ์ของ Code นมแม่ ก็จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมเลี้ยงลูกได้เพียงพอโดยไม่ต้องเสริมนมผง ถึงร้อยละ 90 ขณะที่มีแม่เพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่มีน้ำนมไม่เพียงพอที่จะให้ลูกจริงๆ ส่วนแม่ที่มีโรคบางอย่าง ไม่สามารถให้นมได้พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 5
เมื่อไม่มีการถูกตัดตอนการผลิตน้ำนมแม่ตามธรรมชาติด้วยการเสริมนมผงแล้ว แม่ส่วนใหญ่เมื่อได้รับการช่วยเหลือให้ลูกได้ดูดนมกระตุ้นที่เต้าบ่อยๆ ก็จะสามารถผลิตน้ำนมเพียงพอสำหรับทารกอย่างแน่นอน
"นอกจากการหาความรู้เรื่องการให้นมแม่อย่างถูกต้องและถูกวิธีแล้ว สิ่งสำคัญคือ แม่ต้องไม่เครียด หากมีปัญหาเรื่องการให้นมแม่ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญหรือไปคลินิกนมแม่ใกล้บ้านทันที" พญ.สุธีราแนะนำ
จุฑาภรณ์ กัณหา ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์