ภายหลังตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ถูกโจรกรรมเงินในตู้กว่า 12 ล้านบาทนั้น นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย ย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อธนาคาร แต่ไม่กระทบเงินในบัญชีของลูกค้า โดยฝ่ายเทคนิคของธนาคารแต่ละแห่งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาดังกล่าว
พร้อมระบุว่า แม้ขณะนี้ยังมีธนาคารพาณิชย์บางส่วนที่ยังใช้ตู้เอทีเอ็มของบริษัทเอ็นซีอาร์ ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินที่ถูกโจรกรรมนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นตู้เอทีเอ็มที่มีความเสี่ยง เนื่องจากระบบเอทีเอ็มของธนาคารแต่ละแห่งแตกต่างกัน ทั้งระบบข้อมูลหลักและระบบการติดตั้ง
นายปรีดี ยังย้ำว่า ระบบเอทีเอ็มไทยของธนาคารแต่ละแห่งได้รับการพัฒนาและปรับปรุงซอฟท์แวร์ป้องกันการโจรกรรมรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคัดเลือกบริษัทผู้ผลิตตู้อย่างรอบคอบรัดกุม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความพยายามของผู้ก่อเหตุที่พัฒนารูปแบบการโจรกรรม จึงไม่กังวลว่าจะเกิดปรากฎการณ์แห่ถอนเงินเพราะไม่เชื่อมั่นในระบบตู้เอทีเอ็มไทย เพราะยังมีความจำเป็นและขอยืนยันว่าระบบตู้เอทีเอ็มของธนาคารทุกแห่งมีความมั่งคงและปลอดภัยสูง
ด้านนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า มีการใช้ตู้เอทีเอ็มยี่ห้อเดียวกันกับธนาคารออมสิน แต่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารมีความปลอดภัยสูง เพราะมีการลงระบบความปลอดภัยเข้มงวด ไม่อนุญาตให้ลงโปรแกรมแปลกปลอมที่เครื่องเอทีเอ็ม รวมทั้งมีระบบป้องกันไม่ให้มีการสั่งจ่ายเงินที่ศูนย์ควบคุมเอทีเอ็มและได้แยกระบบเอทีเอ็มออกจากระบบคอมพิวเตอร์หลักที่เก็บข้อมูลด้านเงินฝากและสินเชื่อของลูกค้า จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่น
ขณะที่รายงานจากธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากเทคนิคทางระบบเอทีเอ็มของธนาคาร มากกว่าปัญหาที่ตัวบริษัทผู้ผลิตตู้เอทีเอ็ม