นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำสั่งมาตรา 44 ให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวว่า คาดว่า คำสั่งดังกล่าวมาจากการชี้มูลความผิด ผู้ว่าฯกทม. จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรณีโครงการประดับตกแต่งไฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณลานคนเมืองของ กทม. วงเงิน 39.5 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นมีการเรียกร้องให้หัวหน้าคสช. ใช้มาตรา 44 จัดการกับผู้ว่าฯกทม. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า ยังมีเพียงเรื่องเดียว ซึ่งต่อมามีกรณีทุจริตรถดับเพลิง รถกู้ภัย จึงคาดว่านายกฯมีข้อมูลพอสมควรแล้วเมื่อมีคำสั่งออกมาอย่างนี้ก็ยอมรับได้
ด้านนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวถึง ผลการสอบสวนโครงการอุโมงค์ไฟประดับของ กทม. ในส่วนของ สตง.ว่า ได้สรุปว่ามีมูลการทุจริตฮั้วราคาจ้างงานเสร็จสิ้นแล้วและได้มีการส่งไปให้ ป.ป.ช. และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ดังนั้นจึงคาดว่าคำสั่งดังกล่าวน่า อาจจะมาจากประเด็นนี้จึงทำให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่ง มาตรา 44 ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้เกิดความสะดวกคล่องตัว เกิดความโปร่งใสในขั้นตอนการสอบสวนเอาผิดต่อไป
ขณะนี้ทาง สตง.กำลังเร่งสอบสวนเรื่องการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็กที่ กทม.ไปแก้ไขสัญญาให้บริษัทผู้รับงานสามารถส่งมอบรถได้ รวมทั้งมีราคาสูงถึงคันละ 8 ล้านบาท ขณะที่ยังเป็นรถนำเข้าที่มีพวงมาลัยซ้าย ซึ่ง สตง.เตรียมออกรายงานสรุปข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตหรือไม่
นอกจากนี้ จะมีการเตรียมสอบ กทม.อีกหลายเรื่องตามที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามา เช่น จัดซื้อเปียโน 70 หลังให้โรงเรียน กทม. แต่ไม่มีครูสอน เครื่องดนตรีสากล เครื่องสูบน้ำ เรือผิวน้ำ และเรื่องห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม. ที่มีการปรับปรุงราคา 16 ล้านบาท