วันนี้ (27ส.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพวงจรปิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณซอยสุขุมวิท 23 สามารถจับภาพพฤติการณ์ผู้ต้องสงสัยในคดีแฮ็กระบบเอทีเอ็มธนาคารออมสิน ที่กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 29 กรกฎาคม โดยเป็นชายต่างชาติ ผิวขาว สวมผ้าปิดปาก
ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ต้องสงสัยใช้เวลาทำธุรกรรมหน้าตู้เอทีเอ็มนานผิดปกติ อีกทั้งยังกดปุ่มยกเลิก หรือแคนเซิล บนแป้นเอทีเอ็มเพียงปุ่มเดียว แต่สามารถทำให้เงินออกจากตู้ได้ ก่อนวิเคราะห์ร่วมกับฝ่ายเทคนิคของธนาคารเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุในคดีอาจศึกษาระบบเอทีเอ็มของธนาคาร มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ก่อนก่อเหตุด้วยการส่งไวรัสเข้าไปในตู้เอทีเอ็มหลัก หรือตู้มาสเตอร์ จำนวน 3 ตู้ ส่งผลให้ตู้ย่อยในเครือข่าย 21 ตู้ ติดไวรัสมัลแวร์ จากนั้นได้โจรกรรมเงินออกจากตู้เอทีเอ็มเป้าหมาย ซึ่งถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า
หัวหน้าทีมสอบสวนคดีโจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบตู้เอทีเอ็มย่านวิภาวดี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ตู้ในกรุงเทพมหานครที่ถูกก่อเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมลงพื้นที่ในจังหวัดที่เกิดเหตุด้วย เบื้องต้นยังไม่เชื่อว่าจะมีพนักงานธนาคารเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่อาจมีคนไทยร่วมในกระบวนการขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง
นอกจากนี้ได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบบัญชีรายชื่อแก๊งสกิมมิ่ง ที่เคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันในไต้หวัน เพื่อวิเคราะห์ห้วงเวลาเข้าออกประเทศ คาดว่าคดีจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
หลังเกิดเหตุธนาคารออมสินร่วมกับบริษัทเอ็นซีอาร์ ในฐานะผู้ผลิตตู้เอทีเอ็มที่เกิดเหตุ ทยอยลงโปรแกรมป้องกันไวรัสที่คนร้ายใช้แล้ว คาดว่าตู้เอทีเอ็มกว่า 3,000ตู้ จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ในอีก 3 สัปดาห์