กำแพงบ้านเลขที่ 203 ภายในชุมชนป้อมมหากาฬ ถูกเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครทุบทิ้งเป็นช่องโหว่ เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบ้านที่ยินยอมให้รื้อถอนเพราะอยู่ติดกับบ้านที่สมัครใจให้รื้อถอน ซึ่งเหลืออยู่อีก 5 หลังที่จะต้องทำการรื้อถอน ความผิดพลาดนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวชุมชนจนเจ้าหน้าที่และคนในชุมชนและต้องหารือทำข้อตกลงกันใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ กทม.ได้ยุติการรื้อบ้านเลขที่ 203 และทำตามข้อตกลงเดิม
นายพรเทพ บูรณบุรีเดช รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬกล่าวว่า เสียใจที่ กทม.ไม่ทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ หลังจากนี้ชาวชุมชนจะหารือกัน โดยจะยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการพหุภาคีเพื่อแก้ปัญหานี้
"ต้องมานั่งคุยกันอีกทีว่าใครยอมให้รื้อบ้าน ใครไม่ยอม ตอนนี้เรามีบัญชีของเราว่าจะอยู่ที่นี่ต่อกี่คนและจะไปกี่คน ซึ่งจะนำมาเปรียบเทียบกับบัญชีของ กทม. เพื่อให้ตรงกันให้ชัด เราจะได้อยู่ด้วยกันได้ พรุ่งนี้เราจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหานี้" นายพรเทพกล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ขณะที่รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความผิดพลาดในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการรื้อถอน โดยจะรื้อถอนเฉพาะบ้านที่ยินยอมเท่านั้น และพร้อมเจรจากับชาวบ้านสำหรับมาตรการหลังจากนี้
"แผนอะไรผมไม่เข้าใจทั้งนั้น ผมแค่ทำตามกฎหมาย ในเมื่อมีคำสั่งจากศาล ผู้ตรวจการณ์แผ่นดินของรัฐสภา ศาลปกครอง และมติคณะรัฐมนตรี ผมก็ปฏิบัติตามนั้น"
ชาวชุมชนป้อมมหากาฬยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการรื้อถอนอีก จนกว่ารัฐบาลจะต้องคณะกรรมการพหุภาคี ที่ประกอบด้วยนักวิชาการ ตัวแทนของชาวชุมชน กทม. สื่อมวลชน โดยให้รัฐบาลเป็นประธานในการพูดคุย เพื่อจัดทำข้อสรุปร่วมกันว่าบ้านหลังไหนที่ยินยอมให้รื้อถอนและหลังไหนไม่ยินยอม