พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังจะต้องเรียกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาสอบอีกหลายคน และในพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) ตำรวจจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอัยการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมทางคดี
เบื้องต้นมีรายงานว่า วันนี้ (6 ก.ย.) ได้ประสานหัวหน้าผู้ควบคุมตัวนายธวัชชัย หลังถูกจับกุมและสอบปากคำ จำนวน 2 คน เข้าให้ปากคำ และในวันที่ 8 ก.ย.ตำรวจจะนัดสอบปากคำเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะที่รับตัวนายธวัชชัยมารักษาต่อจากพยาบาลที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นซึ่งตำรวจได้สอบปากคำไปแล้ว นอกจากนี้ตำรวจจะเชิญ พ.ต.อ.ไพสิษฐ์ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะผู้บังคับบัญชาหน่วยงานมาให้ข้อมูลด้วย
พ.ต.อ.มานะกล่าวว่า ตำรวจจะต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาตร์และผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการมาประกอบสำนวน ร่วมกับการสอบผู้เกี่ยวข้อง ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ตำรวจยังไม่ได้รับจากดีเอสไอ
"ตำรวจไปดูแล้วพบว่ามีกล้องวงจรปิดในส่วนที่บริเวณโถงลิฟท์ชั้นล่างจนไปถึงห้องควบคุม แต่ได้รับการยืนยันจากอธิบดีดีเอสไอว่า ภายในห้องควบคุมไม่มีกล้องวงจรปิดเพราะเกี่ยวข้องกับสิทธิส่วนบุคคลของผู้ถูกควบคุม" พ.ต.อ.มานะกล่าว
นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัยกล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวานนี้่ (5 ก.ย.) ว่ายังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของพี่ชาย โดยเฉพาะรอยช้ำที่คอ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเส้นลวด ไม่ใช่ถุงเท้าตามที่มีการระบุหลักฐาน
"เหตุการณ์นี้เป็นการตายโดยผิดธรรมชาติภายในหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ แต่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร" นายชัยณรงค์กล่าว
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.สำนักบริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่าดีเอสไอยังไม่แจ้งความเอาผิดกับ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่โพสต์ข้อความระบุว่า อาจมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายธวัชชัย
ด้าน พล.ต.นพ.เหรียญทอง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า หากการโพสต์ข้อความทำให้ดีเอสไอหรือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ คนใดหรือเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเสียหาย ย่อมเป็นสิทธิของผู้เสียหายในการเป็นโจทก์แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และไม่ทำให้เสียกำลังใจ หากศาลพิพากษาว่าผิดก็ต้องรับโทษ พร้อมกับยืนยันว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นไปด้วยเจตนาดีต่อดีเอสไอและกระทรวงยุติธรรม