จากเหตุการณ์กันสาดและระเบียงอาคารเก่าแก่อายุมากกว่า 30 ปี พังถล่มจนทำให้รถยนต์เสียหายหลายคัน บริเวณหลังประชานิเวศน์ 1 ถ.รังสฤษดิ์เหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่เสียหายหลายคัน
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ย.2559) เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมืองพร้อมด้วยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้เข้าตรวจสภาพความเสียหายของอาคารดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุกันสาดและระเบียงถล่ม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังคงกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้เพราะอาคารอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์และอาจได้รับอันตรายได้
อาคารเกิดเหตุจำนวนทั้งหมด 13 คูหา เป็นอาคารพาณิชย์อยู่ในความดูแลของสำนักการตลาดกรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2525 หรือมีอายุการใช้งานนานกว่า 30 ปีแล้ว กรมโยธาธิการและผังเมืองคาดเหตุการณ์นี้อาจเกิดจากอาคารมีสภาพเก่าไม่พร้อมใช้เป็นที่พักอาศัย
นายสุเนตร เปล่งวัน หนึ่งในผู้เช่าอาคาร กล่าวว่า พักอาศัยอยู่อยู่ในอาคารนี้มา 8 ปี ยังไม่พบสิ่งผิดปกติหรือมีการเตือนว่าอาคารไม่มีความปลอดภัย แต่เมื่อเกิดเหตุรู้สึกตกใจและกังวลว่าทรัพย์สินที่อยู่ภายในจะหายไปเพราะยังนำออกมาไม่ได้
นายไชยณัฐ เจติยานุวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งแจ้งมายังผู้เช่าอาคารที่ทำสัญญาให้ย้ายออกตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีที่ 58 หลังจากวิศวกรจากมหาวิทยาลัยมหิดล ตรวจสภาพอาคารพบว่ามีความเก่า และเสื่อมอายุการใช้งานจึงต้องรื้อเพื่อสร้างใหม่แต่ผู้เช่าไม่ปฎิบัติตามสัญญาและผู้เช่าบางคนให้ผู้อื่นเช่าอาคารต่อ
เช่นเดียวกับอาคารลักษณะคล้ายกันในละแวกนี้กว่า 160 คูหา ที่ทางสำนักงานตลาด กทม.ให้ผู้เช่าย้ายออกเพื่อรื้อแล้วสร้างใหม่ ซึ่งพบว่าอาคารทั้งหมดอยู่ในสภาพเก่าแต่ยังมีผู้เช่าฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามทำให้มีการฟ้องร้องทางคดีขับไล่ผู้เช่า
ส่วนการเยียวยาเบื้องต้นทางสำนักงานเขตได้ประสานไปยังสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยเปิดให้ประชาชนที่อาศัยภายในอาคารเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 3,000 บาท ขณะนี้สำนักการตลาดกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างหารือร่วมกับผู้เช่าทั้งหมดเพื่อจัดหาที่พักชั่วคราวก่อนจะทุบตึกเพื่อสร้างใหม่ทันทีและให้ผู้เช่ากลับเข้ามาอยู่อีกครั้ง