วันนี้ (15 ก.ย.2559) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ได้รับการยืนยันจากผู้เสียหายกรณีข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือค่ายไอเอเอส ว่าเป็นบุคคลที่มีเบอร์โทรศัพท์ปรากฏในเอกสารที่หลุดมาจากบริษัท เอไอเอส โดยภรรยาของเขาเป็นผู้โพสต์ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป หลังจากนั้นได้เดินทางไปพบกับบุคคลที่อ้างว่า เป็นผู้บริหารไอเอส แต่ได้รับคำตอบไม่เป็นที่พอใจ
"ผู้บริหารเอไอเอส ได้อธิบายให้ฟังว่า ระบบการตรวจสอบดีเยี่ยม และจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งผมถามกลับว่าถ้าระบบดี แล้วข้อมูลออกมาได้ยังไง ตอนนั้นทุกคนนั่งเงียบ ไม่มีใครตอบ มีการพูดวนเช่นนี้ว่าระบบดีแล้ว และได้ไล่พนักงานออกแล้ว ฟังอยู่ครึ่งชั่วโมง ไม่มีอะไรคืบหน้า ผมเลยขอตัวกลับบ้าน จากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย" ผู้เสียหาย ระบุ
ผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารที่หลุดมาได้บ่งบอกถึงพฤติกรรมและสถานที่ ที่ตัวเองใช้งาน และยังมีเบอร์โทรศัพท์ อีกประมาณ 100 เลขหมาย ที่ไม่รู้จักอยู่ในเอกสารดังกล่าวด้วย จึงต้องการให้เอไอเอสตรวจสอบว่ามีระดับผู้บริหารเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ผู้เสียหายพร้อมเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจและคณะกรรมการสอบสวนข่อเท็จจริงของ กสทช. เพื่อความกระจ่าง และขอให้บริษัทมือถือทุกรายวางมาตรการป้องกัน ไม่ให้ข้อมูลลูกค้าหลุดออกไปสู่ภายอกนอก เพราะทำให้ผู้ใช้งานเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปของผู้ที่ใช้ชื่อว่า "pairnow" ชื่อกระทู้ว่า "หมดความเชื่อมั่น!!!. พนักงานบริษัท AIS ถือวิสาสะขโมยข้อมูลลูกค้าไปให้บุคคลภายนอก ไม่โดนเองไม่รู้" โพสต์เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2559 กล่าวหาพนักงานของ บ.เอไอเอส สำนักงานใหญ่ ว่าได้รับจ้างทำงานให้บุคคลภายนอก โดยการขโมยข้อมูลส่วนตัวของเธอไปให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น กระทบกับความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตของเธอและครอบครัว
"ข้อมูลต่อไปนี้ทุกอย่างเป็นความจริง และดิฉันกับสามีได้ทราบข่าวจากผู้หวังดี ว่าพนักงาน AIS รายนี้ ได้ทำการแอบดูข้อมูลบันทึกการโทรเข้าโทรออก รวมถึงพิกัดสถานที่ ของเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของดิฉัน และบันทึกเป็นไฟล์ Excel ส่งให้กับบุคคลภายนอก" เจ้าของกระทู้ระบุ
เธอให้ข้อมูลว่า เธอและสามีซึ่งประกอบอาชีพการออกแบบตกแต่งภายใน ช่วงที่ผ่านมาได้รับทำงานให้กับลูกค้ารายหนึ่งซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ต่อมาได้เกิดปัญหาขัดแย้งกับลูกค้ารายนี้ถึงขั้นเคยถูกขู่เอาชีวิต ซึ่งทั้งเธอและสามีได้แจ้งความไว้แล้ว และเพื่อความปลอดภัยจึงได้ย้ายที่อยู่เพื่อหนีจากอิทธิพลของบุคคลดังกล่าว
ภายหลังจากได้รับทราบว่าพนักงานเอไอเอสขายข้อมูลของลูกค้าให้บุคคลภายนอก เธอได้ร้องเรียนกับทางเอไอเอสหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไรจึงได้ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องนี้ในเว็บไซต์พันทิป