วันนี้ (9 ต.ค.2559) นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ย้ำให้แต่ละจังหวัดทบทวนแผนรับมือหลังกรมชลประทานระบายน้ำจากเขื่อนเพิ่ม พร้อมให้จำลองสถานการณ์หากเกิดฝนตกหนักในช่วงนี้ เพื่อเตรียมรับมือแม้ขณะนี้จะยังไม่มีความจำเป็นต้องผันน้ำเข้าพื้นที่ใดเป็นพิเศษ แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ได้ย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเข้าใจกับประชาชนถึงแนวทางช่วยเหลือเชิงรุกตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี หากจำเป็นต้องผันน้ำเข้าพื้นที่ใด เบื้องต้นเตรียมพื้นที่ไว้ใน อ.เสนา และ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะมีการประเมินสถานการณ์และปริมาณน้ำอีกครั้ง หากจำเป็นต้องผันน้ำเข้าพื้นที่จริงจะมีการหารือร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันประเมินความเสียหายและชดเชยตามความเป็นจริง แตกต่างจากการช่วยเหลืออุทกภัยตามปกติ
"จะมีการประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ กรมชลประทาน ว่าเมื่อมวลน้ำก้อนใหญ่มาแล้ว จะต้องหาทางกักเก็บน้ำไว้ในจังหวัดต่างๆ หากพื้นที่นั้นมีพื้นที่เกษตรอยู่แล้ว ให้ชลประทานจังหวัดไปคำนวณเลยว่าคิดเป็นค่าเสียหายเท่าใดตามความเสียหายหากต้องปล่อยน้ำ แยกต่างหากจากประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั่วไป" นายกฤษฎา ระบุ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังระบุว่า ขณะนี้การปล่อยน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาอาจมีผลกระทบบ้างกับประชาชนที่อยู่ตามแนวคันกั้นน้ำบริเวณ จ.สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี แต่ทุกจังหวัดได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกร้อยละ 10 โดยฝนตกใน จ.นครราชสีมา ยังไม่ลงมาสะสมใน จ.สระบุรีและลพบุรี การประชุมวันนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญรักษาการ ปลัด กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีและ จ.นนทบุรี หารือเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะในบริเวณศูนย์ราชการและเมืองทองธานี โดยจะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม