ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"แจ๊ค หม่า" แนะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ "อย่ายอมแพ้" และ "ถ้าไม่เหนื่อย ย่อมไม่สำเร็จ"

เศรษฐกิจ
11 ต.ค. 59
21:39
1,209
Logo Thai PBS
"แจ๊ค หม่า" แนะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ "อย่ายอมแพ้" และ "ถ้าไม่เหนื่อย ย่อมไม่สำเร็จ"
คำคมของ "แจ๊ค หม่า" ประธานกลุ่มบริษัท อาลีบาบา อาจเรียกได้ว่าเป็นคำพูดที่ถูกผลิตซ้ำและส่งต่อกันมากที่สุดในสื่อสังคมออนไลน์ วันนี้ (11 ต.ค.2559) เจ้าของวรรคทองเหล่านั้นมาปรากฏตัวที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ฟัง

ในการสนทนาในหัวข้อ "A Conversation with Jack Ma on Entrepreneurship and Inclusive Globalization" ที่มีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง "แจ๊ค หม่า" ซึ่งแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนกับกางเกงสแล็คปล่อย "วรรคทอง" นับครั้งไม่ถ้วน จึงไม่น่าแปลกใจที่โลกออนไลน์จะเต็มไปด้วยวรรคทองของแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้าน e-commerce ของโลก

ก่อนหน้าที่จะมาบรรยายที่กระทรวงการต่างประเทศ แจ๊ค หม่าได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งสองคนยืนยันว่า นายแจ็ค หม่า ไม่ได้ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือ เอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ รวมทั้งช่วยยกระดับประเทศไทย เข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเน้นที่จะใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลไทย โดยรัฐบาลจะตั้งคณะทำงาน 2 ชุด แบ่งเป็นคณะทำงานของไทย และคณะทำงานจากอาลีบาบา เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการร่วมกันให้เสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี หรือภายในปี 2560 หลังจากที่แจ๊ค หม่า ระบุว่า สนใจที่ ร่วมลงทุนใน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและเสนอให้จัดตั้งเขตการค้าเสรีหรือ Free Trade Zone สำหรับธุรกิจ SMEs

สำหรับกิจกรรมสนทนากับแจ๊ค หม่า ซึ่งมี นายชุตินทร คงศักดิ์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินรายการ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการบริหารและพัฒนาธุรกิจจากเขา

 

แจ๊ค หม่า เปิดการสนทนาด้วยการกล่าวถึงประเทศไทย ซึ่งเขาบอกว่าถ้าจำไม่ผิด ครั้งแรกที่เขาเดินทางออกนอกประเทศจีน เขาเดินทางมาประเทศไทย แจ๊ค หม่าบอกว่าเขาชอบประเทศไทยมาก ครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขาต่างก็ชอบประเทศไทย โดยตัวเขาเองเดินทางมาไทยแล้วร่วม 10 ครั้ง

เขายังได้หยอดคำหวานแสดงความชื่นชมรัฐบาลไทยที่มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจและให้การสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

"ผมได้พบกับนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ของไทย และเราได้คุยกันมากมายถึงเรื่องการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs มาตรการสนับสนุนทางการเงินและผู้ประกอบการรุ่นใหม่" เขากล่าว

 

ไม่ว่าแจ๊ค หม่า จะไปเวทีใดในโลก หนึ่งในคำถามหลักที่คนฟังต่างสนใจก็คือ อะไรเป็นกุญแจความสำเร็จของอาลีบาบา ซึ่งไม่ต่างจากการบรรยายในไทยที่นักธุรกิจรุ่นใหม่และสตาร์ทอัพ ก็ตั้งคำถามนี้เช่นกัน

เขาไม่ได้บอกวิธีการโดยตรง แต่เลือกเล่าประสบการณ์ชีวิตในอดีตที่ไม่สวยงามและวิธีการแก้ปัญหา เขาบอกว่าผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องใช้สมองในการคิดให้มากๆ และต้องอย่ายอมแพ้

"จงอย่ายอมแพ้ การยอมแพ้นั้นเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดในโลก ผมเองก็เคยคิดจะยอมแพ้นับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งจะบอกตัวเองว่าให้สู้ต่อไปอีก 3 วัน ซึ่งปาฏิหารย์มักจะเกิดในช่วง 3 วันนี้" เขาบอกพร้อมกับเตือนคนรุ่นใหม่ที่คิดจะทำธุรกิจด้วยว่าผู้ที่จะประสบความสำเร็จในวันข้างหน้าจะต้องยอมเหนื่อย "ถ้าไม่ยอมเหน็ดเหนื่อยในวันนี้ คุณจะไม่มีวันได้พบกับอนาคตที่สดใส"

แจ๊ค หม่าไม่พลาดที่จะเล่าอดีตอันขมขื่นเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธเข้าทำงานให้ผู้ที่เข้าฟังบรรยายได้ฟัง

"ผมเคยสมัครงานมาแล้วกว่า 30 แห่ง แต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน จนผมเคยชินกับการถูกปฏิเสธและผมเคยชินกับการล้มเหลว" เขายังแนะนำอีกด้วยว่า "เมื่อคุณยังเป็นนักธุรกิจตัวเล็กๆ ขอให้มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ และเมื่อคุณยิ่งใหญ่แล้วจงให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆ"

เขาบอกด้วยว่า ปัจจุบันสังคมเข้าสู่ยุคของการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักรสามารถทำงานแทนคนได้ ซึ่งนั่นหมายถึง งานจำนวนมากจะหายไป แต่ก็จะมีงานใหม่ๆ เข้ามา ระบบออนไลน์ก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากการซื้อขาย เช่น อี-คอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ยังทำให้ธุรกิจขนาดเล็ก ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ภาครัฐก็ต้องให้การสนับสนุน เช่น โครงสร้างพื้นฐานและระบบการเงิน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่บั่นทอนการเริ่มต้นธุรกิจของผู้ประกอบการหน้าใหม่หรือผู้ประกอบการรายเล็ก

ระบบการศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยมุ่งสอนให้คนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรและจินตนาการ พร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เขาเสนอแนะ

ฟังคลิปฉบับเต็ม "สนทนากับ แจ๊ค หม่า" ที่กระทรวงการต่างประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง