วันนี้(12 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชาระเงินและ เทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ไทย สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ได้ร่วมพัฒนาบริการพร้อมเพย์ เพื่อเป็นระบบพื้นฐานรองรับบริการโอนและชาระเงินของประเทศ ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามการพัฒนาและทดสอบระบบพร้อมเพย์ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ หารือร่วมกันทุกสัปดาห์เพื่อให้สามารถดาเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ระบบพร้อมเพย์เป็นโครงการขนาดใหญ่มีธนาคารเข้าร่วม 21 ธนาคาร และมีช่องทางการให้บริการหลากหลาย ได้แก่ ATM ,Mobile Banking และ Internet Banking ตลอดจนมีผู้สนใจลงทะเบียนใช้บริการเป็นจานวนมาก
ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยธนาคารที่เข้าร่วมโครงการและบริษัท NITMX1 เพื่อติดตามความคืบหน้าของการทดสอบระบบเห็นร่วมกันว่าการทดสอบระบบให้รอบด้านและมีความพร้อมทุกธนาคารก่อนเปิดใช้บริการมีความสาคัญมาก เนื่องจากความปลอดภัย ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ ของการทาธุรกรรมทางการเงินเป็นสิ่งสาคัญสูงสุดของระบบสถาบันการเงิน ดังนั้นจึงควรทาการทดสอบระบบทุกอย่างให้ละเอียด รอบด้าน และที่สาคัญต้องให้ทุกธนาคารที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในการเปิดให้บริการพร้อมกันได้หลากหลายช่องทาง รวมทั้งสามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตได้ด้วย
นอกจากเรื่องการทดสอบระบบแล้ว ธปท.เห็นว่าธนาคารทุกแห่งที่เข้าร่วมโครงการควรเตรียม ความพร้อมให้บริการลูกค้ามีการอบรมพนักงานทั้งที่สาขาธนาคาร และ Call Center รวมทั้งมีการ เตรียมการเกี่ยวกับการดูแลและคุ้มครองผู้ใช้บริการที่เป็นธรรม ตลอดจนมีการกาหนดระยะเวลาแก้ไขปัญหา ให้ลูกค้าอย่างเหมาะสมด้วย
ขณะที่การประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ซึ่งทุกฝ่ายจึงเห็นพ้องกันว่าการที่สมาคมธนาคารไทยและธนาคารที่เข้าร่วมโครงการเสนอให้เลื่อนการเปิด ให้บริการพร้อมเพย์สาหรับธุรกรรมระหว่างบุคคลไปเป็นไตรมาสแรกของปี 2560 เป็นแนวทางที่เหมาะสม เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสาหรับการทดสอบระบบให้มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และสามารถรองรับธุรกรรมจานวนมากในอนาคตได้
ตลอดจนให้ทุกธนาคารที่ให้บริการสามารถเตรียมการภายในให้มีความพร้อมในการบริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนในการเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึงและสะดวก อย่างไรก็ดีสำหรับการโอนเงินสวัสดิการจากภาครัฐสู่ประชาชน ระบบพร้อมเพย์มีความพร้อมให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปี 2559
ทั้งนี้ ธปท. จะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลให้ทุกธนาคารมีระบบที่มั่นคงปลอดภัยและสามารถเปิดให้บริการพร้อมกัน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมด้านการสื่อสารผ่านสาขา และ call center เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง