ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเกือบทั่วทั่งภาคกลางในวันนี้ (12 ต.ค.2559) ทำให้ชาวชุมชนวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ลุ่มต่ำที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนพระราม 6 เผชิญกับปัญหาน้ำเริ่มเพิ่มขึ้นอีก ต่างจากช่วงเช้าที่สถานการณ์แม่น้ำป่าสักเริ่มดีขึ้น เพราะพื้นที่ต้นน้ำเขื่อนป่าสัก จ.ลพบุรี ไม่มีฝนตกมาเติมทำให้น้ำลดลงประมาณ 10 เซนติเมตร
น้ำที่เพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำเอ่อท่วมข้าวของของชาวบ้านและต้องทำความสะอาดกันอีกครั้ง แม้ว่าขณะนี้แม่น้ำป่าสักจะเริ่มทรงตัว แต่ชาวบ้านยังไม่ย้ายกลับไปอยู่บ้านและยังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะฝนที่กำลังเริ่มตกหนักในภาคกลาง
ผู้อำนวยการเขื่อนพระราม 6 ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขื่อนพระราม 6 กำลังเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากต้นน้ำบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม แต่ก็ยังปักธงแดงเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง เนื่องจากวันที่ 14-16 ต.ค.2559 กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกหนักในภาคกลางอีกครั้ง แต่กรมชลประทานคาดว่าสถานการณ์จะไม่น่ากังวลเพราะเขื่อนป่าสักมีพื้นที่เพียงพอในการรองรับน้ำฝนรอบใหม่
ปัจจุบันเขื่อนพระราม 6 มีการระบายน้ำ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จุดรวมแม่น้ำ 2 สาย ทั้งแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,366 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าตลิ่ง ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดจะไหลลงอ่าวไทยผ่าน จ.ปทุมธานีและนนทบุรี