วันนี้ (27 ต.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตระหนักดีถึงการให้โอกาสทางการแพทย์แก่สุนัขจรจัด จนนำมาสู่การจัดตั้งโครงการศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ต้นแบบการแก้ไขปัญหาสุนัขจรและบริจาคเลือด
ปัจจุบันสถานการณ์สุนัขป่วยด้วยโรคที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือด เช่น ภาวะติดเชื้อ หรือโรคพยาธิในเม็ดเลือด รวมถึงการผ่าตัดและอุบัติเหตุ ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน พบปีละประมาณ 350 ตัว แต่กลับมีสุนัขที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดเพียงปีละประมาณ 100 ตัวเท่านั้น สะท้อนถึงปัญหาการขาดแคลนเลือดสุนัขเพื่อการรักษา
ด้วยน้ำพระราชหฤทัยและพระเมตตาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชประสงค์ให้จัดตั้งศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินขึ้นเมื่อปี 2546
โดยได้พระราชทานเงินจากการจำหน่ายเสื้อพิมพ์ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ครอบครัวคุณทองแดงจำนวน 5 ล้านบาท แบ่งเป็นทุนในการก่อสร้างอาคาร 4 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1 ล้านบาท เป็นทุนในการจัดตั้งมูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินในพระบรมราชูปถัมภ์
นอกจากนี้ ยังมอบให้เทศบาลเมืองหัวหินดูแลสุนัขจรจัดอย่างเป็นระบบ ทั้งการให้อาหาร รักษาสุขภาพ ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ทำหมันเพื่อควบคุมปริมาณ และเลี้ยงสุนัขให้อยู่กับธรรมชาติ ส่วนสุนัขที่แข็งแรงจะอยู่ในโซนสุนัขให้เลือดหรือธนาคารเลือด
ทุกสัปดาห์ทีมสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน จะเข้าไปเจาะเลือดสุนัข หาตัวที่ไม่ติดโรค ไม่เป็นพยาธิ เกล็ดเลือดไม่จาง ซึ่งสามารถให้เลือดเพื่อนำไปช่วยชีวิตสุนัขตัวอื่นๆ ต่อไปได้
ปัจจุบันมีสุนัขจรจัดที่อยู่ในการดูแลของศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินเกือบ 1,000 ตัว ซึ่งช่วยแก้ปัญหาสุนัขจรจัดในเมืองท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ
การเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตร การดำเนินงานที่ศูนย์แห่งนี้เมื่อปี 2557 ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังคงอยู่ในความทรงจำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงใส่พระราชหฤทัยและทรงมีพระเมตตาต่อสัตว์ ซึ่งเป็นแบบอย่างให้น้อมนำไปปฏิบัติเพื่อดูแลสุนัขเหล่านี้อย่างดีที่สุด
โครงการนี้ นับเป็นต้นแบบการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมาศึกษาดูงาน เพื่อนำไปเป็นแบบอย่างการจัดการปัญหาในพื้นที่
ทั้งนี้ จิตสำนึกในการดูแลสุนัขของผู้เลี้ยง โดยไม่ทอดทิ้งให้เป็นภาระของผู้อื่น และนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ตามพระราชดำรัสจึงเป็นสิ่งสำคัญ