วันนี้ (3พ.ย.2559)นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน ได้ออกประกาศฉบับที่ 18 เรื่องสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเพชรบุรีโดยระบุว่าปริมาณน้ำจากลำห้วยแม่ประ
จันต์ ยังมีปริมาณมาก และไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานใช้ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเพชรบุรี รับน้ำเข้าไปตามศักยภาพที่รับได้
พร้อมกับใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเพชร รองรับปริมาณน้ำไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรักษาปริมาณน้ำที่ต้องระบายผ่านคืนไม่ให้เพิ่มมีมากขึ้น โดยขณะนี้ยังคงการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชรในอัตรา 288 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด ระดับน้ำสูงขึ้นแต่ยังต่ำกว่าตลิ่ง
ส่วนอำเภอเมืองเพชรบุรี จะมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำ บริเวณเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีและตำบลบ้านกุ่ม สำหรับในพื้นที่อ.บ้านแหลม จะมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณต.บ้านแหลม ต.บางครก ต.ท่าแร้ง ต.ท่าแร้งออก และต.บางขุนไทร
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน วางแนวทางลดผลกระทบให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยประสานขอความร่วมมือจากเทศบาลเมืองเพชรบุรี ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสริมคันกั้นน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 21 เครื่องสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังอย่างต่อเนื่องและอย่างติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8เครื่องในแม่น้ำเพชรบุรี ระบายน้ำออกสู่ทะเล
ส่วนการติดตามสถานการณ์ที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ กรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำจากที่ระบายสูงสุด 156 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จนขณะนี้หรือลดการระบายเหลือ 31 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่จะไหลมาถึงเขื่อเพชร ลดลงตามไปด้วย
คาดว่าจะสามารถลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชร ลงตั้งแต่เที่ยงวันนี้ และหากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มเติม คาดว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเพชรบุรี จะดีขึ้นจะเริ่มต่ำกว่าตลิ่งและเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วัน