วันนี้ (11 พ.ย.2559) พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจมักกะสัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด เพราะยังไม่ชัดเจนว่า คนขับเรือและกระเป๋าเรือ มีความผิดหรือไม่ เนื่องจากภาพวงจรปิด แม้จะเป็นหลักฐานที่มีความชัดเจน แต่ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างกระเป๋าเรือและผู้โดยสาร จึงจำเป็นต้องเรียกสอบปากคำพยานบุคคล 2 ปาก ที่โดยสารในเรือลำเกืดเหตุ เพื่อสอบถามในประเด็นที่ว่า ก่อนเกิดเหตุ คนขับเรือและกระเป๋าเรือ ได้แจ้งเตือนผู้โดยสารไม่ให้รีบลงจากเรือก่อนที่เรือจะจอดเทียบท่าเรียบร้อยหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการดำเนินคดี
นอกจากนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบบริษัทเจ้าของเรือโดยสาร เพื่อขอดูเอกสารการจดทะเบียนและหลักฐานการขับเรือของคนขับเรือและกระเป๋าเรือ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนถูกต้อง สำหรับเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้วเช่นกันในประเด็นกฎระเบียบเกี่ยวกับการเดินเรือต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารเรือด่วนคลองแสนแสบ 2 คนที่เป็นพยานได้ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำเป็นวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.)
ทั้งนี้ตำรวจได้ฝากประชาสัมพันธ์ผู้ใดคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ หากประสงค์จะเข้าให้ข้อมูล สามารถติดต่อกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลมักกะสันได้ทันที
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) นายธีรพงษ์ ศิลาฤทธิ์ อายุ 50 ปี ผู้โดยสารเรือด่วนคลองแสนแสบได้พลัดตกจากเรือขณะกำลังเทียบท่าที่ท่าเรือนานาชาติท้ายซอยสุขุมวิท 15 หลังเกิดเหตุตำรวจสถานีตำรวจนครบาลมักกะสันประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญู ค้นหาผู้โดยสารคนดังกล่าว นักประดาน้ำใช้เวลาหากว่า 3 ชั่วโมง จึงพบร่างของนายธีรพงษ์อยู่ห่างจากท่าเรือประมาณ 20 เมตร เนื่องจากถูกกระแสน้ำและแรงดันของเรือพัดไปอยู่ฝั่งตรงข้ามท่าเรือ
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมซึ่งเดินไปดูที่เกิดเหตุระบุว่า เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายธีรพงษ์ก้าวพลาดและหงายหลังตกน้ำลงไป พร้อมยืนยันว่าในชั่วโมงเร่งด่วน มีเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่ามาคอยดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเรือทุกท่า แต่ยอมรับว่ามีผู้โดยสารจำนวนมากใช้บริการ และบางคนก็รีบขึ้นเรือโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย