นายฟรองซัวส์ ออลลองค์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 22 (คอพ 22) ที่กรุงมาร์ราเคช ประเทศโมรอคโค ว่าข้อตกลงปารีสเป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ เพราะรัฐภาคีได้ทำข้อตกลงร่วมกันไว้แล้วและจะต้องปฏิบัติตาม ผู้นำฝรั่งเศสได้กล่าวเจาะจงไปถึงชาวอเมริกันว่า หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น หากหายนภัยทางธรรมชาติยังคงเกิดขึ้นต่อไป จะนำไปสู่การอพยพย้ายถิ่นครั้งใหญ่ และสหรัฐอเมริกาจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
ด้านนายบัน คี-มูน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแปรข้อตกลงให้กลายเป็นการปฏิบัติที่จริงจัง โดยนายบัน ระบุว่า เขาได้พูดคุยกับนายทรัมพ์แล้ว ซึ่งนายทรัมพ์ตอบรับที่จะรับฟังและทำความเข้าใจถึงความรุนแรงและความเร่งด่วนของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ยังแสดงความมั่นใจว่าทรัมพ์จะตัดสินใจในประเด็นนี้อย่างชาญฉลาด ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งประวัติศาสตร์จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาด
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งใน 110 ประเทศ จากทั้งหมด 197 ประเทศสมาชิก ที่ให้สัตยาบันในข้อตกลงปารีส ขณะที่นายทรัมพ์เคยกล่าวในระหว่างการหาเสียง ว่าจะสนับสนุนให้สหรัฐอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงนี้ และจะหันมาส่งเสริมการใช้พลังงานจากถ่านหิน น้ำมันและหินดินดาน รวมทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นเรื่องหลอกลวง