หลังจากสถานการณ์คุณภาพน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี มีแนวโน้มเสื่อมโทรมลงตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้(18 พ.ย. 2559) ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำหรือค่าดีโอ คลองสารภีท้ายประตู วัดได้ 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร น้ำแม่น้ำปราจีนที่บ้านสร้าง วัดได้ 2.2 มิลลิกรัมต่อลิตร
นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ปัญหาคุณภาพน้ำแม่น้ำปราจีน เสื่อมโทรม เกิดจากการระบายน้ำจากคลองสารภี ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นน้ำเสียจากท้องทุ่งที่เกิดจากการหมักหมมของฟางข้าว และเศษวัชพืชต่างๆ ที่แช่น้ำอยู่นานจนเน่าเสีย ประกอบกับปีนี้มีน้ำมากในพื้นที่ ที่จะส่งผลให้คุณภาพน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีเสื่อมโทรมลง และอาจส่งผลให้ปลาในธรรมชาติและปลาในกระชังตายลงได้
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ บอกว่า ขณะนี้ได้แจ้งเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนคุณภาพแม่น้ำปราจีนบุรี ไปยังโครงการชลประทานปราจีนบุรี เป็นผู้ดูแลในการเปิดและปิดประตูระบายน้ำ โดยเฉพาะในช่วงเดือน มิถุนายน จะเป็นช่วงปิดประตูเพื่อทดน้ำให้ชาวบ้านในทุ่งสารภี และทุ่งบัวขอน ใช้ในการทำนา ใช้เวลาในการกักเก็บน้ำนาน 6 เดือน และในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาเปิดประตูระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรีในฤดูเก็บเกี่ยว ใช้ระยะเวลาในการระบายประมาณ 20 วัน
ขณะนี้ เพื่อป้องกันปัญหาคุณภาพน้ำที่อาจจะเกิดขึ้น กรมควบคุมมลพิษ ได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติ ที่บริเวณท้ายประตูระบายน้ำและที่บริเวณแม่น้ำปราจีนบุรี โดยสถานีฯ จะตรวจวัดปริมาณออกซิเจนละลายน้ำหรือค่าดีโอ ทุกครึ่งชั่วโมง และสามารถติดตามข้อมูลผลการตรวจวัดได้จากเว็บไซต์ www.wqmonline.com
และหากเมื่อปริมาณออกซิเจนละลายในแม่น้ำปราจีนบุรี อยู่ในระดับต่ำกว่า 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งจะเริ่มมีผลกระทบต่อสัตว์น้ำ ทั้งสัตว์น้ำตามธรรมชาติ และการเพาะเลี้ยงในกระชัง สถานีฯจะแจ้งเป็นข้อความ SMS ไปยังโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ที่ควบคุมประตูระบายน้ำ และเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการควบคุมระดับการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และใช้ในการแจ้งเตือนผู้เลี้ยงปลาในกระชังต่อไป