เปิดโผ รมว.กลาโหม-ต่างประเทศรัฐบาล "ทรัมพ์"
นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา เปิดการหารือกับกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลชุดใหม่ เช่น ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ผู้นำรัสเซียระบุว่านายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ พร้อมที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซีย ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐอเมริกา และไมค์ เพนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดีคนใหม่ หารือร่วมกับ พล.อ.เจมส์ แมททิส นายพลเกษียณอายุราชการจากกองทัพเรือ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลของนายทรัมพ์
นอกจากนี้ นายทรัมพ์ยังได้ประชุมร่วมกับผู้ที่คาดว่าจะมีตำแหน่งในรัฐบาลของเขาอีกหลายคน เช่น นายรูดี จูลีอานี อดีตนายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญอีกคนหนึ่งที่ช่วยนายทรัมพ์หาเสียงระหว่างการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นอกเหนือไปจากการพบปะกับนายมิตต์ รอมนีย์ ที่คาดว่าอาจจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอีกคนหนึ่งเช่นกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยนายทรัมพ์หาเสียงมาโดยตลอด แต่กลับไม่มีรายชื่อในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ว่าจะได้รับตำแหน่งใดบ้าง นายทรัมพ์กลับตอบแต่เพียงว่าคริสตี้เป็นบุคคลที่ฉลาดและดีเยี่ยมเท่านั้น
"ปูติน" ชี้ "ทรัมพ์" พร้อมกระชับสัมพันธ์ทวิภาคีรัสเซีย-สหรัฐฯ
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ยืนยันถึงความยินดีที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีระหว่างรัสเซียกับสหรัฐอเมริกาให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมขอบคุณนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน ที่ร่วมงานกันมาเป็นเวลาหลายปี พร้อมทั้งระบุว่าจะต้อนรับนายโอบามาเป็นอย่างดีหากเดินทางเยือนรัสเซียในอนาคต
ผู้นำรัสเซียยังใช้โอกาสในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่กรุงลิมา ของเปรู แสดงความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลังจากชาวอังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยผู้นำรัสเซียประกาศว่ารัฐบาลรัสเซียพร้อมจะรักษาระดับการผลิตนํ้ามันในระดับปัจจุบันให้คงที่ ก่อนที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกนํ้ามันเป็นสินค้าออก หรือ โอเปค จะเห็นชอบในข้อตกลงกับประเทศนอกกลุ่ม ในวันที่ 30 พ.ย.2559 ซึ่งผู้นำรัสเซียระบุว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่โอเปคจะบรรลุข้อตกลงดังกล่าว
"โอบามา" ประกาศผลักดันความตกลง "ทีพีพี" ต่อไป
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ว่า ผู้นำสมาชิกเอเปคทั้ง 21 ประเทศจะร่วมกันต่อต้านการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ พร้อมทั้งระบุว่ามีการกีดกันทางการค้าสูงขึ้นในยุโรป ซึ่งจะเห็นได้จากการที่อังกฤษเตรียมจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป
นายโอบามายืนยันด้วยว่าผู้นำประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ ทีพีพี ทั้ง 12 ประเทศ จะผลักดันให้ความตกลงนี้เดินหน้าต่อไป โดยมีสหรัฐอเมริการวมอยู่ด้วย เนื่องจากเกิดความไม่แน่นอนว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ จะสนับสนุนทีพีพีต่อไปหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้นายทรัมพ์เคยพูดไว้ในช่วงการหาเสียงว่าจะยกเลิกหรือทบทวนความตกลงนี้
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า จีนอาจยินดีหากความตกลงทีพีพีล้ม เนื่องจากจีนไม่อยู่ในกลุ่มความตกลงนี้ แต่จีนเป็นหนึ่งใน 16 ประเทศที่อยู่ในกรอบความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซป ที่มีอาเซียน 10 ประเทศและประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศเป็นสมาชิก