ขณะนี้มีตัวเลขว่าคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานมากถึง 3.5 ล้านคน ซึ่งโรคนี้มักจะไม่ค่อยแสดงอาการในช่วงเริ่มต้น
วันนี้(22 พ.ย.2559) นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบว่าเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน คือเบาหวานขึ้นตา เป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับจอประสาทตา เมื่อผู้ป่วยมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกตินานหลายปี จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเส้นเลือดฝอยในจอประสาทตา มีเม็ดเลือด น้ำเหลืองและไขมันซึมออกมาในจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาบวม ขาดออกซิเจน หากปล่อยทิ้งไว้จะมีเลือดออก น้ำวุ้นตาขุ่นมัว จอประสาทตาลอก และทำให้ตาบอดในที่สุด
ซึ่งโอกาสการเกิดโรคเบาหวานขึ้นตา จะเป็นไปตามระยะเวลาที่เป็นโรคเบาหวาน เช่น เป็นโรคเบาหวานนาน 10 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 10% เป็นนาน 15 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 50% และถ้าป่วยนานถึง 25 ปี โอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาจะเพิ่มเป็น 80-90%
โรคเบาหวานขึ้นตา เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่แสดงอาการในช่วงแรก ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรเข้ารับการตรวจตาจากจักษุแพทย์อย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานขึ้นตาตามช่วงอายุ หากมีอายุ 30 ปีหรือน้อยกว่า ควรได้รับการตรวจครั้งแรกหลังจาก 5 ปีที่พบว่าเป็นโรคเบาหวานเป็นประจำปีละ1 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 30 ปี เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานควรตรวจเป็นประจำปีละ 1 ครั้ง และผู้ที่ตั้งครรภ์ควรรับการตรวจทุก 3 เดือนจนกว่าจะคลอดบุตร
ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรได้รับการตรวจตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตา และเป็นการป้องกันตาบอดจากโรคเบาหวาน ซึ่งกรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี ได้จัดทำโครงการค้นหาผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อตาบอด จากโรคเบาหวานโดยใช้ภาพถ่ายจอประสาทตาในระบบดิจิทัล เป็นโครงการป้องกันตาบอดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน