ทรัมพ์เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่าเขาจะแถลงข่าวพร้อมกับลูกๆ ที่นครนิวยอร์กในวันที่ 15 ธ.ค.2559 เตรียมประกาศถอนตัวจากอาณาจักรธุรกิจทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลกเพื่อทุ่มเทให้กับการบริหารและหลีกเหลี่ยงปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดของทรัมพ์ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่โปร่งใสให้ตัวเองก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.2560
"ผมจะยุติบทบาททางธุรกิจทั้งหมดและทุ่มเทให้กับการบริหารประเทศเพื่อทำให้สหรัฐฯ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้บังคับให้ผมต้องถอนตัวจากการทำธุรกิจ แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผล ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะต้องปราศจากการมีผลประโยชน์ทับซ้อนในธุรกิจมากมายที่ทำอยู่" ทรัมพ์ระบุ พร้อมกับเปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อยุติบทบาทของเขาในธุรกิจต่างๆ
"หน้าที่ของประธานาธิบดีนั้นสำคัญกว่า (การทำธุรกิจ) มากนัก!" ทรัมพ์โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์
หลังจากที่ทรัมพ์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2559 ได้เพียง 3 วัน บริษัททรัมพ์ ออร์แกไนเซชัน (Trump Organization) เปิดเผยว่าเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อถ่ายโอนอำนาจบริหารให้กับบุตรของทรัมพ์ 3 คน
I will be holding a major news conference in New York City with my children on December 15 to discuss the fact that I will be leaving my ...
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) November 30, 2016
great business in total in order to fully focus on running the country in order to MAKE AMERICA GREAT AGAIN! While I am not mandated to ....
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) November 30, 2016
do this under the law, I feel it is visually important, as President, to in no way have a conflict of interest with my various businesses..
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) November 30, 2016
ทั้งนี้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมพ์ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ปลีกตัวออกจากการรณรงค์หาเสียงไปร่วมพิธีเปิดโรงแรมของตัวเองในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
คำประกาศของทรัมพ์มีขึ้นหลังหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทของทรัมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ในอย่างน้อย 20 ประเทศทั่วโลก ขณะที่บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ฉบับวันที่ 17 พ.ย.2559 ระบุว่าทรัมพ์ควรปลดเปลื้องตัวจากทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดกันของผลประโยชน์