วันนี้ (1 ธ.ค.2559) หลังเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. กล่าวเปิดเผยถึงขั้นตอนการเชิญองค์รัชทายาท เพื่อสืบราชสันตติวงศ์ ว่าในส่วนของ สนช. สมบรูณ์ครบถ้วนตามขั้นตอนแล้ว จากนี้ไป จะเป็นขั้นตอนของสำนักพระราชวัง ที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนนั้น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะนำประมุขทั้ง 3 ฝ่าย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายวีรพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อกราบบังคมทูลเชิญขึ้นทรงราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ ในเวลาประมาณ 18.30 น. วันนี้
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนุญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว ปี 2557 หมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ อ้างถึงมาตรา 23 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 ในกระบวนการกราบบังคมทูลเชิญทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทเพื่อกราบบังคมทูลเชิญขึ้นทรงราชย์ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนที่ 4 คือประธาน สนช.ประกาศให้ประชาชนทราบ ซึ่งก่อนหน้านี้ ขั้นตอนแรก คือการประชุม ครม. และแจ้งเรื่องไปยัง สนช. ขั้นตอนที่ 2 คือประธาน สนช. แจ้งต่อที่ประชุมรับทราบการสถาปนาองค์รัชทายาทขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งหากครบทั้ง 4 ขั้นตอน ถือเป็นเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ และจะต้องเรียกว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนกว่าจะมี พระราชพิธีบรมราชาภิเษก จึงเรียกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยรายละเอียดทั้งหมดจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา