วันนี้ (2 ธ.ค.2559) นายเค่อ นัว หลิน ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป กล่าวว่า รถเมล์ เอ็นจีวีล๊อตแรกจำนวน 99 คัน จากจำนวนทั้งหมด 489 คัน ได้มาถึงท่าเรือแหลมฉบังเรียบร้อยแล้ว ซึ่งล๊อตดังกล่าวเป็นเป็นการถึงก่อนกำหนดตามสัญญาที่ได้ลงนามไว้กับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
และในขณะนี้รถเมล์เอ็นจีวี ผ่านขั้นตอนพิธีศุลกากรแล้ว และเข้าสู่กระบวนการนำรถออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังอู่รถของบริษัทเพื่อตรวจสอบระบบก่อนจะไปติดตั้ง GPS ที่ ขสมก.เป็นผู้ดำเนินการ โดยใช้เวลาการตรวจสอบ 20-25 คันต่อวัน
โดย บ.เบสท์ริน กรุ๊ป จะส่งมอบรถล็อตแรกจำนวน 99 คัน ให้แก่ ขสมก.ได้ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ และจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองทดสอบระบบ ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ และคาดว่าจะทยอยส่งมอบให้ครบทั้ง 489 คันได้ภายในวันที่ 29 ธันวาคมนี้
ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า รถเมล์เอ็นจีวีล๊อตแรก จะทยอยออกให้บริการใน 21 เส้นทาง เช่น สาย 138 หมอชิต-พระประแดง, สาย 510 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สาย 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่ และสาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน ในช่วงวันที่ 21 ธันวาคมนี้ พร้อมยืนยันว่าค่าโดยสารจะใช้ในอัตราเดิมที่ 12-24 บาท
หากย้อนดูมติคณะรัฐมนตรีย้อนหลังจะเห็นได้ว่า ความพยายามในการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี มีมาตั้งแต่ปี 2548 ในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร มีมติให้จัดหารถใหม่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง 6,000 คัน มูลค่า 1 แสนล้านบาท
กระทั่ง 14 กุมภาพันธ์ 2549 ได้มีมติปรับลดจำนวนจัดซื้อรถเมล์ เอ็นจีวี เหลือ 2,000 คัน วงเงิน 23,500 ล้านบาท ต่อมาเมื่อรัฐบาลถูกรัฐประหาร โครงการจึงถูกพับไป และมาฟื้นขึ้นใหม่ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เปลี่ยนเป็นให้เช่ารถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คันแทน จนกระทั่งวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ขสมก.ลงนามซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน มูลค่า 3,389 ล้านบาท กับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด