การหารือระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน, พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์, นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย, กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วสี ที่ปรึกษาคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม
ทั้งหมดจะมีหน้าที่ขับเคลื่อนประเด็นที่ถูกกำหนดไว้ ในระยะเบื้องต้น 5 เรื่อง เช่นประเด็นการจ้างงานผู้พิการ แม้ว่ามีกฎหมายระบุให้ภาครัฐและเอกชนจ้างงานผู้พิการตามสัดส่วนที่กำหนด แต่ปัจจุบันในจำนวนผู้พิการที่สามารถทำงานได้กว่าครึ่งยังไม่มีงานทำ
แต่นโยบายประชารัฐจ้างงานคนพิการ จะกำหนดให้เพิ่มการจ้างงานคนพิการในภาครัฐให้ครบ 15,000 อัตรา ส่วนภาคเอกชนให้ครบ 10,000 อัตราภายใน 2 ปีข้างหน้า การจ้างงานผู้สูงอายุ เอกชนจะสามารถนำไปหักรายจ่ายได้ถึง 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือน หรือค่าจ้างผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
การสร้างความเข้าใจเรื่องการออมเพื่อการเกษียณอายุให้กับประชากรในกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและแรงนอกระบบ เพื่อสร้างหลักประกันด้านเศรษฐกิจในยามสูงวัย การพัฒนาที่อยู่อาศัยและระบบนิเวศน์ที่เหมาะสมเพื่อรองรับผู้สูงอายุและคนพิการ คือการสร้างที่พักอาศัยที่ปลอดภัยและมีระบบบริการ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคนและความปลอดภัยบนถนน สถานประกอบการ โรงงาน นิคมอุตสาหกรรม จะร่วมกันกำหนดนโยบายหรือมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน ลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ทันตแพทย์สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. หัวหน้าทีมภาคประชาสังคม ระบุว่า ภาคประชาสังคมดำเนินงานทั้งในด้านวิชาการและขับเคลื่อนนโยบายที่จะนำไปประสานความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในรูปแบบประชารัฐได้