สถานีโทรทัศน์อิตาลี รายงานผลการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่าชาวอิตาลีออกเสียงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 54 ต่อ 46 ซึ่งทันทีที่ประกาศผลการลงประชามติ ส่งผลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยผลการลงประชามติครั้งนี้ยังเป็นการตัดสินอนาคตทางการเมืองของนาย มัตเตโร เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลีอีกด้วย หลังเคยประกาศเอาไว้ว่าจะลาออกหากฝ่ายโหวตโนชนะการลงประชามติ
นายเรนซี เสนอแก้ไขลดจำนวนและอำนาจวุฒิสภา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้รัฐบาลบริหารประเทศได้อย่างคล่องตัว และกฎหมายบางเรื่องไม่จำเป็นต้องผ่านวุฒิสภา ขณะที่รัฐธรรมนูญอิตาลี ปี 2491 ระบุ ให้สภาล่างและสภาสูงมีอำนาจเท่าเทียมกันในการเห็นชอบกฎหมาย
ขณะที่ กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่าย "โหวตโน" หรือ ไม่รับประชามติแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ออกมาชุมนุมร้องเพลง และตะโกนคำขวัญหน้าอาคารรัฐบาลใจกลางกรุงโรม ของอิตาลีเพื่อฉลองชัยชนะ หลังจากผลเอ็กซิตโพลของสถานีโทรทัศน์ "อาร์เอไอ" ของอิตาลีชี้ว่าฝ่ายโหวตโนมีคะแนนเหนือกว่า
หนึ่งในผู้ชุมนุม ระบุว่าชัยชนะของฝ่ายโหวตโน เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าประชาชนเบื่อหน่ายการทุจริต ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและนโยบายของรัฐบาล นาย มัตเตโร เรนซี นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐบาลชุดก่อนๆ
โดยฝ่ายที่รณรงค์ให้โหวตโนมีชื่อว่า "ขบวนการไฟว์ สตาร์" ซึ่งเป็นขบวนการประชานิยมนำโดย นาย เบบเป้ กริลโล ดาวตลกซึ่งนิยมชมชอบนายโดนัลด์ ทรัมพ์
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ มองว่านาย เซร์จีโอ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดี น่าจะหารือกับพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือตั้งพรรคประชาธิปไตยของนายเรนซีเป็นรัฐบาลรักษาการ ขณะที่ฝ่ายค้านน่าจะต้องการให้จัดเลือกตั้งก่อนกำหนดจากเดิมในปี 2561 เพื่อเปิดทางให้ขบวนการไฟว์ สตาร์ ที่ต่อต้านสหภาพยุโรปเข้ามามีอำนาจ