รพ.บางสะพานอพยพผู้ป่วย หลังน้ำทะลักเข้าท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รุนแรงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากฝนที่ตกติดต่อนาน 6 วัน ทำให้น้ำจากเทือกเขาตะนาวศรี ทะลักลงคลองบางสะพาน ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะโรงพยาบาลบางสะพาน ขณะที่เส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ชั้นในตัวอำเภอบางสะพาน รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ โดยจุดน้ำท่วมอยู่ที่บริเวณโรงพยาบาลหน้าวัดทรายขาว โรงเรียนอนุบาลบางสะพาน ตลาดบางสะพาน และถนนที่ไปบางสะพานน้อย

นพ.เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางสะพาน ให้สัมภาษณ์รายการที่นี่ไทยพีบีเอสเมื่อเวลา 22.00 น. ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร ได้ระดมกำลังกันมาช่วยเคลื่อนย้ายเครื่องมือแพทย์และวางกระสอบทรายกันน้ำเข้าพื้นที่สำคัญในโรงพยาบาล เช่น ห้องยา ห้องคลอด ห้องผ่าตัด และได้เริ่มวางกระสอบทรายและเร่งสูบน้ำออกจากโรงพยาบาลแล้ว สำหรับผู้ป่วย ขณะนี้โรงพยาบาลมีคนไข้ทั้งหมด 126 คน ได้มีการย้ายผู้ป่วยหนัก 3 คน คือ หญิงเตรียมคลอด 2 คน และเด็กที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1 คนไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด นอกจากนี้ยังได้อพยพผู้ป่วยชายกว่า 30 คนจากอาคารชั้นเดียว ไปบนอาคาร 6 ชั้นเรียบร้อยแล้ว

รพ.บางสะพาน เป็นโรงพยาบาลที่นักร้องชื่อดัง "ตูน บอดี้ สแลม" อยู่ระหว่างการระดมทุนเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลในโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน" ด้วยการวิ่ง 10 วัน ระยะรวม 400 กิโลเมตร จาก กรุงเทพฯ - อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเริ่มออกวิ่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ขณะที่หลายพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อขนย้ายสิ่งของ ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติคาดว่า ภาวะฝนตกหนักในภาคใต้จะยังคงมีต่อเนื่องถึงวันที่ 11 ธ.ค.2559

ที่ จ.ตรัง ทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ เข้าช่วยเหลือและอพยพสิ่งของเครื่องใช้ให้กับชาวตำบลหนองตรุด และ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ที่ใช้สำนักงานนาตาล่วงและวิทยาลัยสารพัดตรังเป็นศูนย์พักพิงของผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย ระดับน้ำอาจเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากตลอดวันนี้ ยังคงมีฝนตกหนัก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณณะภัยเกาะสมุยและเทศบาลนครเกาะสมุย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในย่านเศรษฐกิจ ขณะที่ทหาร ค่ายวิภาวดีรังสิต เข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนำเรือท้องแบนมารับส่งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางทางออกจากที่พัก ไปยังแหล่งท่องเที่ยวตามจุดที่ไม่มีน้ำท่วมขัง

ที่ จ.กระบี่ ปริมาณน้ำในคลองสินปุน ซึ่งเป็นคลองสาขาของแม่น้ำตาปี ล้นตลิ่งเข้าท่วม โดยเฉพาะบ้านเรือนหมู่ 4 และ หมู่ 5 ตำบลสินปุน อ.เขาพนม กว่า 30 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูงเป็นวันที่ 3 นอกจากนี้้น้ำยังไหลเข้าท่วมสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันหลายร้อยไร่ รวมทั้งถนนหลายสายในหมู่บ้าน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ มีชาวบ้านกว่า 120 ครัวเรือนต้องประสบปัญหาการเดินทาง

ที่ จ.นครศรีธรรมราช พื้นที่ ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากและที่สำคัญพื้นที่สวนปาล์มซึ่งถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหายอาจทำให้ต้องขาดรายได้นานหลายเดือน

จ.นครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมทั้งจังหวัดรวม 23 อำเภอ พื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อ.สิชล นบพิตำ เมือง จุฬาภรณ์ ชะอวด หัวไทร และเฉลิมพระเกียรติ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมครอบคลุมทั้งจังหวัดแล้ว มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 250,000 คน มีผู้เสียชีวิต 5 คน โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนกว่า 80 แห่ง ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ (6 ธ.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมสั่งกำชับให้ทางจังหวัดเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ประชาชนประสบอันตรายและเสียชีวิตเพิ่มจากสถานการณ์น้ำท่วม

นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติ ระบุว่า สถานการณ์ฝนตกหนักในภาคใต้ ยังคงมีต่อเนื่องถึงวันที่ 11 เดือนนี้ และจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมหนักครั้งนี้ อาจถูกน้ำท่วมระลอกสองได้

"ช่วง 1 สัปดาห์นี้ฝนจะมาหนักแน่ ที่ที่เคยท่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็จะต้องระวังน้ำท่วมต่อเนื่อง" นายเสรีกล่าว

กรมทางหลวงรายงานล่าสุดน้ำท่วมกระทบ 19 เส้นทาง

สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2559 ทำให้เส้นทางสัญจรที่อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวงเสียหาย 19 เส้นทางใน 6 จังหวัด โดยเฉพาะเส้นทางใน จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง และตรัง ที่บางจุดใช้งานไม่ได้

นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวง ฝ่ายบำรุงทาง กล่าวว่าในจำนวน 19 เส้นทางที่ได้รับผลกระทบ มี 5 เส้นทางที่ไม่สามารถใช้สัญจรได้ ซึ่งกรมทางหลวงได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงและแขวงทางหลวง จัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังติดตั้งป้ายบอกทาง และช่วยจัดการจราจรในเส้นทางที่น้ำท่วมขัง รวมทั้งให้ศูนย์สร้างทางจังหวัดสงขลาและศูนย์บูรณะสะพานจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าซ่อมแซมสะพานและถนนที่ชำรุด