วันนี้ (19 ธ.ค.2559) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มแฟนบอลไทย จุดพลุไฟเชียร์การแข่งขันฟุตบอลซูซุกิคัพ นัดชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติอินโดนีเซีย จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมว่า ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ซึ่งเป็นท้องที่รับผิดชอบอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับแฟนบอลที่จุดพลุไฟดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าเป็นแฟนบอลกลุ่มใด แต่ยังอยู่ระหว่างสืบทราบตัวบุคคลที่จุดพลุไฟ เบื้องต้นพบว่ามีผู้จุดพลุไฟหลายคน
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า เจ้าหน้าที่มีมาตรการคัดกรองบุคคลที่เข้าไปเชียร์ฟุตบอลอยู่แล้ว และเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่สนามฟุตบอลมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างและมีประตูทางเข้าหลายประตู ซึ่งแฟนบอลอาจซุกซ่อนมากับอุปกรณ์การเชียร์ฟุตบอล จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ส่วนพลุไฟที่แฟนบอลนำมาจุด เป็นพลุไฟชนิดใช้มือดึง หรือ แฟร์พลุ ซึ่งไม่ใช้ชนิดตั้งพื้นแล้วจุด
ขณะเดียวกัน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเรียกร้องให้แฟนบอลที่ทำการจุดพลุไฟ มีจิตสำนึกในการเชียร์ฟุตบอล เพราะการกระทำดังกล่าวอาจถูกทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติลงโทษ และอาจมีผลต่อการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทย ซึ่งหากการตรวจสอบพบหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่จะจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการกระทำดังกล่าว อาจเป็นการทำให้สมาคมฟุตบอลของไทยได้รับความเสียหาย และยังสร้างความเสียหายแก่ประเทศ และยังเชื่อว่าอาจมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งตนเองได้กำชับให้ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว