เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.2559) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายและคลิปวีดีโอ ผู้จุดพลุแฟร์ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ และที่ตำรวจสามารถเก็บได้จากภายในบริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่มีการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟซูซูกิคัพรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย ขณะนี้สามารถเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คนตามภาพถ่ายและคลิปวีดิโอ
สำหรับภาพถ่ายที่ปรากฏในสื่อออนไลน์เป็นภาพขณะที่ชาย 2 คนถือพลุแฟร์ ซึ่งมีความผิดในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้ศาลแขวงพระนครเหนืออนุมัติออกหมายจับ นอกจากนี้ ยังมีบุคคลตามภาพถ่ายที่พนักงานสอบสวนเตรียมดำเนินการออกหมายจับในข้อหาเดียวกันอีก 7 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป
ส่วน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลเรียกฝ่ายจัดการแข่งขัน, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และตัวแทนจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน เข้าร่วมการประชุมชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อจับกุมแฟนบอลที่กระทำความผิด โดยนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลตั้งข้อสังเกตว่าแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวหลีกเลี่ยงการตรวจค้นที่เข้มงวดของเจ้าที่หน้ารักษาความปลอดภัย โดยมีเจตนาต้องการสร้างความวุ่นวาย และอาจต้องการทำลายชื่อของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
จากการประชุมทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นเบาะแสสำคัญ เนื่องจากมีหลักฐานการตรวจสอบรายชื่อของแฟนบอลที่นั่งในโซนเอส อัฒจรรย์ฝั่งใต้ จากรายชื่อผู้จองบัตรเข้าชมการแข่งขัน ซึ่งได้ข้อมูลมาจากตัวแทนจำหน่ายบัตรเข้าชม คาดว่าข้อมูลทุกอย่างจะปรากฏชัดเจน จนสามารถหาตัวผู้กระทำความผิดในเร็ววันนี้
สำหรับพลุแฟร์เป็นอุุปกรณ์ที่ต้องขออนุญาตนำเข้า เนื่องจากเป็นวัตถุไวไฟ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่เรือทุกลำต้องมีไว้ เพื่อใช้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ซึ่งฟีฟ่าระบุไว้ว่าเป็นวัตถุอันตรายที่ห้ามนำเข้าสนาม เพราะมีความร้อนที่สูงถึง 1,600 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังเคยทำให้เกิดผู้เสียชีวิตมาแล้ว