เหตุสลดรับวันเด็กแห่งชาติ จากกรณีเครื่องบินขับไล่กริพเพน 39 ซี ที่แสดงแอร์โชว์วันเด็กเกิดอุบัติเหตุตก 1 ลำบริเวณ ที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา จนทำให้นักบินหนุ่ม อนาคตไกล นาวาอากาศตรี ดิลกฤทธิ์ ปัทวี นักบินประจำหมวดบิน 3 ฝ่ายยุทธการฝูงบิน 701 กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตในหน้าที่ สร้างความตื่นตกใจ และโศกเศร้าแก่ผู้ที่เข้าร่วมชมแอร์โชว์ ที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดเหตุสลดในวันนี้
ย้อนกลับไปดูการเข้าประจำการของเครื่องบินขับไล่กริพเพน กองทัพอากาศ ลงนามในสัญญาจัดหาเครื่องบินองค์การยุทธภัณฑ์ทางทหารของสวีเดน ซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน ซี และ ดี จำนวน 6 ลำ ระยะที่ 1 เมื่อปี 2551-2555 บรรจุเครื่องบินกริพเพน 6 เครื่อง เข้าประจำการกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 ในยุคที่ พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ งบประมาณในการจัดซื้อ 19,000 ล้านบาท
ส่วนระยะที่ 2 ดำเนินการในช่วงปี 2554-2558 งบประมาณจัดซื้อ 15,400 บาท ปิดโครง การไปเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2556 โดยประเทศสวีเดนได้ส่งมอบ เครื่องบินขับไล่กริพเพน 39 ซี 3 เครื่อง เป็นล็อตสุดท้าย เสริมเขี้ยวเล็บฝูงบิน 701 กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี รวมบรรจุเข้าประจำการทั้งหมด 12 ลำ พร้อมด้วยเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ SAAB 340 AEW ที่อยู่ในสัญญาจัดซื้อคราวเดียวกัน
นับได้ว่าเป็นการปิดโครงการจัดซื้อกริพเพน อย่างเป็นทางการในยุคที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ หลังจากโครงการต่อเนื่องมานาน 6 ปี ผ่านผู้บัญชาการทหารอากาศถึง 3 สมัย ภายใต้เป้าหมายการก้าวไปสู่การเป็นกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาค แม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ
ในวันปิดโครงการเมื่อเดือน ก.ย.2556 เครื่องบินขับไล่กริพเพนได้ต้อนรับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมบินเดินทางในหมู่บินเกียรติยศ โดยการบินเกาะหมู่ของเครื่องบินขับไล่กริพเพน 3 เครื่อง พร้อมเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 และเอฟ 5 จากกองบิน 6 ดอนเมืองไปยังกองบิน 7 สุราษฎร์ธานีใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพื่อร่วมพิธีบรรจุระบบป้องกันทางอากาศแบบบูรณาการ
ต่อมาช่วงเดือน มี.ค. เครื่องบินขับไล่กริพเพนจากกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี เดินทางไปแสดงสมรรถนะในงาน ลังกาวี อินเตอร์เนชั่นแนล มารีนไทม์แอนด์แอโร่สเปซ เอ็กซ์ซิบิชั่น (Langkawi International Maritime and Aerospace Exhibition) หรือ ลิม่า2013 ซึ่งเป็นงานแสดงอาวุธทางเรือ และอากาศยานนานาชาติที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กองทัพอากาศ ตั้งเป้าหมายดูแลรักษาเครื่องบินกริพเพน ให้รับใช้ชาติได้นานถึง 30 ปี แทนเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 ซึ่งประจำการมาแล้ว 33 ปี มีการพัฒนาบุคลากรรองรับระบบที่ทันสมัยของกริพเพน ทั้งการสร้างนักบินแสดงสมรรถนะ ที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูง และนักบินที่เติมน้ำมันกลางอากาศได้ ข้อมูลในปี 2556 กริพเพนของไทย มีจำนวนชั่วโมงบินรวมกว่า 2,000 ชั่ว โมงบิน ในช่วง 2 ปีที่เข้าประจำการ และยังได้ทำการบินวางกำลังมาแล้วทั่วประเทศ ทั้งจุดยุทธศาสตร์สำคัญและสนามบินที่มีทางวิ่งจำกัด เพื่อเตรียมพร้อมภารกิจดูแลความมั่นคงในภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทย อันดามัน และทั่วประเทศ