จากกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูใน จ.สกลนคร ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เมื่อปี 2548 แต่ภายหลังมีหลักฐานใหม่เชื่อได้ว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง จนศาลจังหวัดนครพนมมีคำสั่งไต่สวนคดีนี้อีกครั้ง
วันนี้ (16 ม.ค.2560) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติบางประเด็นในคดีดังกล่าว โดยระบุว่านางจอมทรัพย์ และเพื่อนครู พูดในรายการโทรทัศน์ลักษณะเตรียมการไว้ก่อน เหมือนมีคนคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง และดูไม่เป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นางจอมทรัพย์พูดก็ทำให้ประชาชนทั่วประเทศเห็นใจ แต่เหตุใดศาลจึงตัดสินลงโทษ
นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตกรณีเพื่อนครู ที่อ้างว่าสืบค้นพบรถคันที่ก่อเหตุจริง แล้วมีคนมาสมอ้างว่าเป็นผู้ต้องหาชนคนตายตัวจริงเมื่อปี 2548 ว่าเหตุใดผู้ที่อ้างว่าก่อเหตุจึงสารภาพกับเพื่อนครูแทนตำรวจ รวมทั้งมีลักษณะวิตกกังวล
"มั่นใจว่าคดีนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ยอมเสี่ยงสืบข้อมูลแม้ประชาชนเห็นใจครู 90% แต่อยากพิสูจน์ความจริงว่ากรณีนี้เป็นแพะ หรือแกะ (เด็กเลี้ยงแกะ) หากพบว่าครูเป็นแกะแล้วลวงโลกเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง" นายอัจฉริยะกล่าว
จากการสืบค้นข้อมูลทำให้เห็นว่ารถป้ายทะเบียน บค 56 ในประเทศไทยมีทั้งหมด 16 คัน ขณะนี้เหลืออยู่ 15 คัน เนื่องจากนายสับ วาปี เจ้าของทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ได้แจ้งยกเลิกป้ายทะเบียนไปตั้งแต่ปี 2552 แต่เพื่อนของครูจอมทรัพย์ กลับอ้างว่า สืบค้นพบรถคันดังกล่าว และนายสับ เป็นเจ้าของรถในปี 2557
ขณะที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ตั้งข้อสังเกตกรณีครูไม่นำพยานที่ไปด้วยในวันเกิดเหตุรถชนคนเสียชีวิตมาให้การในชั้นศาล “ถ้าครูไม่ผิดจะเอาใจช่วยให้ชนะคดี แต่ถ้าไม่ใช่ก็ผิดหวังกับคนหลายกลุ่ม รวมทั้งคนที่ออกมาวิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทย” นายปรเมศวร์ กล่าว