วันนี้ (25 ม.ค.2560) จากกรณีที่สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจเมืองเกียวโตควบคุมตัวข้าราชการระดับรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กรณีตกเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยภาพวาด 3 ภาพ มูลค่า 15,000 เยน ที่ติดอยู่ภายในโรงแรมจากโรงแรมแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
ล่าสุด นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับแจ้งจากกระทรวงต่างประเทศว่า ทางการญี่ปุ่นควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวไทย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับรองอธิบดี โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว และสถานกุงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้ช่วยเหลือในการจัดหาล่ามและทนายความ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าเยี่ยมโดยจะสามารถเข้าเยี่ยมได้ในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.)
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สั่งให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในนครโอซาก้า ประสานงานร่วมกับสถานกุงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว อย่างใกล้ชิด
นายทศพล ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการควบคุมกำกับดูแลให้ข้าราชการของกระทรวงประพฤติตนอยู่ในกฎระเบียบของทางราชการ และรักษาวินัยตามกฎหมายข้าราชการพลเรือน อย่างไรก็ตาม ต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการที่ถูกกล่าวหาในการชี้แจงต่อข้อกล่าวหา
สำหรับข้าราชการคนดังกล่าว เดินทางไปประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับบุคลาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งองค์การทรัยพ์สินทางปัญญาโลก จัดร่วมกับสำนักงานสิทธิบัตรของญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค. ณ กรุงโตเกียว และได้รับการร้องของจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น เชิญไปพูดในเรื่องของนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของเอกชน วันที่ 20 -25 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการคนดังกล่าวได้รายงานกลับมายังกรมทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่ นายทศพล ระบุว่า "ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานโดยทางกระทรวงได้ประสานไปยังสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร และยังไม่มีข้อมูลว่าเหตุเกิดที่โรงแรมใด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยหรือไม่ว่าขณะเกิดเหตุนั้นผู้ก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะดีหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า "ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลในส่วนนั้นแต่โดยปกติท่านเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ปฏิบัติงานราชการอย่างเต็มความสามารถ โดยตามกำหนดการจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) แต่ยังไม่ทราบว่าจะกลับมาได้หรือไม่"
ส่วนการลงโทษจะยึดตามกฎหมายประเทศญี่ปุ่น แต่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะต้องภาคทัณฑ์ ลดขั้นเงินเดือน หรือลงโทษทางวินัยต่อไป แต่ต้องรอให้ข้อเท็จจริงยุติก่อน รวมทั้งยังไม่มีรายงานว่าภาพที่ถูกขโมยเป็นภาพใด ล่าสุดสถานกงสุลประสานเพื่อเข้าพบในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.)