วันนี้ (1 ก.พ.2560) อาบู อับดุลลาห์ อดีตนักรบจีฮัดเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า คำสั่งอำนาจบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่ห้ามผู้อพยพจาก 7 ชาติมุสลิมได้แก่ อิหร่าน อิรัก ซีเรีย ซูดาน ลิเบีย เยเมนและโซมาเลีย เดินทางเข้าสหรัฐฯ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มไอเอสในการเกณฑ์คนมาเข้าร่วมและกลุ่มไอเอสยังจะใช้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวในโหมกระพือการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว มองว่าเป็นการทำสงครามกับอิสลามและชาวมุสลิมทั้งหมด
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจในกรุงลอนดอนของอังกฤษให้ความเห็นว่า แม้กลุ่มไอเอสจะยังไม่มีการนำมาตรการปิดกั้นผู้อพยพของประธานาธิบดีทรัมพ์ไปโฆษณาชวนเชื่อในโลกออนไลน์ แต่มาตรการดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อที่ทรงอานุภาพของกลุ่มไอเอสมากกว่าที่ผ่านมา
ด้านนายจอห์น เคลลี่ย์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ออกมากล่าวปกป้องกันมาตรการปิดกั้นผู้อพยพของทรัมพ์ โดยเผยว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่ห้ามการเดินทาง แต่เป็นคำสั่งชั่วคราวเพื่อให้เวลารัฐบาลทบทวนระบบตรวจสอบผู้อพยพที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ส่วนที่กรุงลอนดอน นางแอมเบอร์ รุดด์ (Amber Rudd) รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า มาตรการผู้อพยพของประธานาธิบดีทรัมพ์เป็นการสร้างความแบ่งแยกและกลุ่มไอเอสจะได้ประโยชน์ ขณะที่มีรายงานว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษจะเปิดอภิปรายในเดือนนี้่ว่าเห็นควรจะให้นายทรัมพ์เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรหรือไม่ หลังมีการยื่นคำร้องให้ยกเลิกแผนการเยือนดังกล่าวและมีผู้ลงชื่อสนับสนุนกว่า 1.6 ล้านคน