วันนี้ (14 ก.พ.2560) พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ จะเรียกนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เจ้าของรถยนต์หรูยี่ห้อลัมโบกินี รุ่นกาลาโด้ มูลค่า 20 ล้านบาท มาสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากตำรวจพบว่าคำให้การและพยานหลักฐานที่พบยังขัดแย้งกับคำให้การของนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา
พล.ต.ท.สมหมาย ยังระบุว่า เปิดโอกาสให้นายอัครกิตติ์นำพยานหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองรถมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงการครอบครองรถว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่ในทางสืบสวนของตำรวจยังยืนยันว่าเป็นการครอบครองอย่างไม่ถูกต้อง และอาจจะถูกดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในข้อหาสมคบหรือสนับสนุนผู้กระทำความผิด
ส่วนการสรุปสำนวนคดีนี้ หากสอบสวนนายอัครกิตติ์เสร็จสิ้นก็จะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ภายในสัปดาห์นี้ และเชื่อว่าจะสามารถจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้อีกอย่างน้อย 1 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนการติดตามตัวนายอุสมาน สะแลแมง หนึ่งในผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายไซซะนะ โดยขณะนี้ทางการข่าวพบว่านายอุสมานได้ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าและหลบหนีอยู่ในประเทศลาว และยังพบว่ามีการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดไปสู่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ประสานข้อมูลกับทางการลาวอยู่ตลอดเวลา
ส่วนกรณีที่ตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 จับผู้ต้องหาค้ายาเสพติดและยึดของกลางยาบ้าได้กว่า 2.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 7 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่นอีกจำนวนมาก ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า เป็นเครือข่ายของชาวม้งผาขาวที่ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวเรื่องการขนส่งยาเสพติดอยู่ตามแนวชายแดน