วันนี้ (18 ก.พ.2560) นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือสผ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ และโครงการท่าเทียบเรือคลองรั้ว ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ถอดรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรืออีเอชไอเอ ออกจากการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาโครงการหรือคชก.ตั้งแต่ปี 2558 หลังจากเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย เรียกร้องให้ สผ.ตรวจสอบข้อบกพร่องรายงาน ที่ยังไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็น ทั้งผลกระทบต่อพื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว จนที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อเสนอให้การตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นเป็นขั้นตอนส่วนหนึ่งในการหารือร่วมกัน ซึ่งจะมีตัวแทนจากทุกฝ่ายเข้าร่วม เพื่อหาทางออก
สผ.ยันอีเอชไอเอโรงไฟฟ้า ยังไม่ผ่านสวล.
เลขาธิการ สผ.ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ผ่านมากว่า 1 ปี เจ้าของโครงการยังไม่มีการส่งรายงานอีเอชไอเอ เข้ามาพิจารณารอบใหม่ และถึงแม้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้(17 ก.พ.) จะมีมติให้เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ได้ก็ตาม แต่กฟผ. ยังต้องส่งเสนอรายงานอีเอชไอเอ มาที่ สผ. และต้องนำเข้าพิจารณาในคชก.ตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อถามว่าการที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กพช. จะสั่งการให้เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะกดดันหรือส่งสัญญาณมายัง สผ.ซึ่งเป็นหน่วยงานพิจารณาทางด้านสิ่งแวดล้อมหรือไม่ นางรวีวรรณ บอกว่าเป็นคนละส่วนกัน พร้อมทั้งยืนยันยังไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง ทั้งนี้ การพิจารณารายงานอีไอเอโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และยิ่งมีการต่อต้านจากภาคประชาชน จะทำให้คชก.ต้องหาข้อมูลมากขึ้น
นักอนุรักษเคลื่อนไหวผ่านโซเชียล
ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนักอนุรักษ์ ที่ออกมานำเสนอข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้รัฐบาลได้มีการยกเลิกมติ กพช. ที่ได้มีความเห็นชอบในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ และเทพาจังหวัดสงขลา เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ
โดยเฟชบุ๊กของนายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ได้แสดงความเป็นห่วงกรณีเส้นทางขนส่งโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อยู่ในพื้นที่แรมซาร์ไซต์เนื้อที่กว่า 130,000 ไร่ปากแม่น้ำกระบี่ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ
เช่นเดียวกับเฟชบุ๊กของ กลุ่มกรีนพีช ประเทศไทย Greenpeace Thailand โพสต์ข้อเขียนว่า “อัปยศ! วันที่ผู้นำประเทศไทยเลือกเดินหน้าถ่านหิน” ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่าพลังชุมชนท้องถิ่นและภาคประชาชนขับเคลื่อนค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่มากว่า 3 ปี แต่พล.อ.ประยุทธ์ ประธานกพช. กลับให้เดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชนที่รอฟัง ซึ่งไม่เห็นด้วยและกังวลต่อผลกระทบของโครงการ
“เราไม่ได้ประท้วงอย่างไร้เหตุผล เราเป็นประชาชน เราอยากให้นายกฯฟังเสียงเรา”