ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทั้งคณะ พร้อมนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่า ร.ฟ.ท.ให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และตั้งคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.ใหม่ จาก 7 คนเป็น 9 คน ได้แก่ นายวรวิทย์ จําปีรัตน์ เป็นประธานกรรมการ และนางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ นายบวร วงศ์สินอุดม นายปิติ ตัณฑเกษม พลเรือเอก ทวีชัย บุญอนันต์ นาวาอากาศเอก ธนากร พีระพันธุ์ นางอัญชลี เต็งประทีป นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ นายอํานวย ปรีมนวงศ์ เป็นกรรมการ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุถึงเหตุผลสำคัญในการปลดบอร์ด ร.ฟ.ท.ว่า ต้องการให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการลงทุนจำนวนมหาศาลของ รฟท.พร้อมยอมรับว่า หลายโครงการมีความล่าช้า จึงเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนผู้บริหารการจะตอบโจทย์การทำงานของรัฐบาลได้ดีขึ้น
ขณะที่นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่า ร.ฟ.ท.คนใหม่ ให้สัมภาษณ์ในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งว่า รัฐบาลต้องการให้มาผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ ของ ร.ฟ.ท.เพื่อให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งตนเองรับทราบที่มาที่ไปเป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งบอร์ด ร.ฟ.ท.มาโดยตลอด
สำหรับสถานะโครงการลงทุนของ ร.ฟ.ท.ที่นายอานนท์ อ้างว่าต้องการผลักดันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ที่ล่าสุดยื่นซองประมูลแล้ว แต่เลื่อนการประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น จึงยังไม่มั่นใจว่าจะเปิดอีอ็อคชั่นได้ตามกำหนดหรือไม่ ส่วนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน แม้จะเปิดรับฟังความคิดเห็นเอกชนและนักลงทุนแล้ว แต่ถูกกระทรวงการคลังตีกลับ ส่งผลให้การเปิดประมูลล่าช้า ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง กระทรวงคมนาคมก็ตีกลับแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เนื่องจากมีปัญหาการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณชุมทางเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี 500 ไร่
ก่อนหน้านี้นายพิชิต อัตราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เคยมอบหมายให้นายวุฒิชาติ จัดทำแผนการจัดตั้งบริษัทพัฒนาสินทรัพย์ เพื่อพัฒนาที่ดินของ ร.ฟ.ท. 40,000 ไร่ ให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า 3,000 ล้านบาท แต่นายวุฒิชาติก็ยังไม่มีโอกาสได้ส่งแผน