วันนี้ (3มี.ค.2560) น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อเท้จจริง กรณีข่าวว่ากล้าไม้ป่าชายเลน ที่ทช.นำไปปลูกในพื้นที่แปลงปลูกป่าชาย ต.ปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จำนวน 225 ไร่ ตายทั้งหมดจริง เนื่องจากแปลงปลูกป่า เคยเป็นพื้นที่ยึดคืนมาจากนายทุนบุกรุกถือครอง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2559 จำนวน 13 แปลง เนื้อที่ 1,698 ไร่ ถูกนายทุนบุกรุกและทำนาเกลือ จนเกิดการสะสมของเกลือในดิน
จนทำให้ระบบนิเวศป่าชายเลนเปลี่ยนแปลง หากไม่มีกระบวนการปรับสภาพดิน ปรับสภาพน้ำ และระบบนิเวศที่เหมาะสมก่อนจะปลูกต้นไม้ให้รอดได้ และไม่นิยมทำกัน ทำให้กล้าไม้ตายเกือบทั้งหมด หลังจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาทช. จัดงานโครงการปลูกป่าชายเลนประชารัฐ เนื้อที่ 20 ไร่นำร่อง และเชิญผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมกันปลูกป่าชายเลน เป็นการแสดงในเชิงสัญลักษณ์
อธิบดีทช.ยืนยันว่า ทช. ไม่เคยจัดซื้อต้นกล้าจากบุคคลใดทั้งสิ้น มีแต่ประชาชนมาขอรับกล้าไม้ป่าชายเลนไปปลูกเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งชนิดไม้ที่ปลูกครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นไม้ถั่ว โปรง แสมทะเล และโกงกางใบเล็ก และการแก้ปัญหาหลังจากนี้ทช.จะ ร่วมกับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และชุมชนท้องถิ่น จัดทำแปลงทดลองฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่ที่ผ่านการทำนาเกลือเนื้อที่ 70 ไร่ เพื่อศึกษาวิจัยพื้นที่หาแนวทางเหมาะสมโดยยึดหลักวิชาการมาใช้ปรับสภาพพื้นที่ก่อนที่จะปลูกฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่ทั้งหมด
ขณะนี้ได้ขุดคูแพรก เพื่อชักนำน้ำทะเลให้เข้าถึงพื้นที่และช่วยชะล้างเกลือที่สะสมออกไปจากพื้นที่ จากนั้นจะปลูกทดลองชนิดพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนประมาณเดือนมิ.ย.นี้