วันนี้(6มี.ค.2560) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์หรือ กสท. มีวาระสำคัญในการพิจารณากรณีการขอยกเลิกใบอนุญาต 11 ช่องรายการของบริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด รวมทั้งพิจารณาแผนการชดเชยเยียวยาผู้ใช้บริการทั้ง 11 ช่อง
เบื้องต้นคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีข้อเสนอให้ ทรูวิชั่นส์ จัดทำมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเพิ่มเติมให้เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภค ภายใน 15 วัน หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ให้ปรับวันละ 20,000 บาท และเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแล้ว หากยังไม่ปฏิบัติตามให้ใช้มาตรการทางปกครองสั่งเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคม นาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า สำหรับ 11 ช่องรายการที่ขอยกเลิก พบว่าทรูวิชั่นส์ ได้แจ้งผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 30 วัน 2 ช่อง ส่วนอีก 9 ช่องรายการ ที่ได้มีการยุติการให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 15พ.ค.2559 ยังไม่อาจพิจารณาได้ว่ามีการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่ เพราะไม่ได้แสดงหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนมีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ กสท. เตรียมหารือการออกอากาศเนื้อหารายการ Wake Up News ทางช่อง Voice TV ซึ่งเป็นเนื้อหาที่อาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศ คสช. รวมทั้งอาจขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงที่ได้ทำไว้ร่วมกับ กสทช. ซึ่งคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหา มีข้อเสนอต่อ กสท. ให้มีคำสั่งให้ Voice TV แก้ไขปรับปรุงระงับการออกอากาศรายการเป็นเวลา 7 วัน
ซึงกรณีนี้ น.ส.สุภิญญา เห็นว่า หากมีการนำเสนอข้อมูลที่คิดว่าไม่ครบถ้วน หรือพาดพิงกสท.ควรสั่งให้ช่องเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายที่โดนพาดพิงได้ชี้แจง ให้สิทธิ์การโต้แย้งข้อมูลที่ถูกต้องรอบด้าน จะเป็นการแก้ปัญหาตามแนวทางสากลที่ตรงจุดกว่าการสั่งแบนสื่อ