เหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่น 18 คนทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร จนเสียชีวิตในคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา มีภาพวงจรปิด และพยานที่เห็นเหตุการณ์เป็นหลักฐานที่ตำรวจนำมาติดตามตัวผู้ก่อเหตุจนนำไปสู่การออกหมายจับวัยรุ่นทั้งหมด
ทีมข่าวไทยพีบีเอส ย้อนดูการทำงานของตำรวจ ในการรวบรวมพยานหลักฐาน จากจุดเกิดเหตุ ที่กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ลงมือฆ่านักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี
คืนวันที่ 24 ก.พ.ปอนด์ และเพื่อนมาดูคอนเสิร์ตที่ร้านแห่งหนึ่ง คืนนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็อยู่ภายในร้าน จากคำบอกเล่าของพยานที่เป็นเพื่อนของผู้ตายเล่าว่าทั้ง 2 ฝ่ายพบกันแต่ก็ยังไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้น พร้อมกับยืนยันว่า ปอนด์ไม่เคยรู้จักกับ
ผู้ก่อเหตุมาก่อน ราวเที่ยงคืนครึ่ง ปอนด์และเพื่อนออกจากร้าน กลับหอพักที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก โดยไม่สังหรณ์ใจว่าจะถูกปองร้าย
ประมาณ ตี1 กลุ่มผู้ต้องหานับสิบคน บุกมาที่หอพัก เพื่อหาคู่อริ แต่เมื่อไม่พบ พวกเขากลับรุมทำร้ายปอนด์และเพื่อนที่นอนอยู่ในห้องแทน กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้เวลาลงมือเพียง 3-5 นาที โดยที่เพื่อนๆที่อยู่ในห้องทั้ง 5 คนไม่มีใครตั้งตัว ปอนด์ กลายเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดเขาเสียชีวิตโดยไม่มีโอกาสได้ต่อสู้
เช้าวันที่ 26 ก.พ.ผู้เสียหายที่รอดชีวิตทั้ง 4 คน เข้าแจ้งความที่สภ.ชะอำ ภาพจากกล้องวง จรปิดเห็นกลุ่มวัยรุ่นกำลังกรูเข้ามาที่หอพัก คือหลักฐานชิ้นแรก ที่ตำรวจใช้ติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุ
นอกจากนี้ยังมีร้านเหล้าที่อยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าร้าน 2 ตัว ภาพที่ปรากฎคือ กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุกำลังมาตามหาเพื่อนปอนด์ ที่เคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน แต่ไม่พบภาพจากกล้องวงจรปิดตัวนี้เป็นหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจน
ตำรวจสถานีตำรวจภูธรชะอำ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด
ต่อมาวันที่ 1 มี.ค.นี้ ตำรวจขอหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ออกหมายจับ และจับกุมนายกรกนก หรืออาร์ท วรัญญสาธิต อายุ 23ปี ในข้อหาบุกรุกยามวิกาล และร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาส่วนผู้ก่อเหตุคนอื่นๆทยอยรายงานตัวรวม 18 คน และได้รับการประกันตัว ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี คดีนี้ผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพล ผู้เสียหายจึงกังวลว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันที่ 8 มี.ค.นี้ นางอรุณี ดีสุวรรณ ป้าผู้ตายพร้อมทนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และในฐานะทนายความ จึงเข้าพบ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอโอนคดีจาก สถานีตำรวจภูธรชะอำมาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม
พร้อมทั้งขอให้คุ้มครองพยานและเร่งรัดการเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งคดีนี้ได้รับการโอนย้ายตามที่ผู้เสียหายร้องขอ และเริ่มดำเนินการสอบสวนทันที จนสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้อีก1คน รวมคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 19 คน และกำลังขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ใบมรณบัตร ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจาก เนื้อสมองด้านขวาฉีกขาด เนื่องจากถูกของ แข็งแทงบริเวณขมับขวา แต่แม่เชื่อว่าลูกชายอาจมีอาการบาดเจ็บส่วนอื่นอีก จึงเตรียมนำศพมาชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 12 มี.ค.นี้ และยืนยันจะไม่เผา จนกว่าจะจับคนผิดมารับโทษได้