คองเกรสเตรียมผ่านกม.ใช้หนี้ของสหรัฐฯ
สภาคองเกรสของสหรัฐฯ จะลงมติร่างงบประมาณขยายเพดานการก่อหนี้และการตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งเป็นร่างที่ถูกตีกลับมาแก้ไขใหม่จนได้ข้อสรุปร่วมกันของทั้ง 2 พรรคการเมืองหลักและของทั้ง 2 สภาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ โดยจะมีผลให้สหรัฐฯ ไม่ต้องกลายเป็นชาติผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างที่หวาดเกรงกันมาตลอดหลายสัปดาห์
ขณะนี้ร่างงบประมาณขยายเพดานการก่อหนี้และการต้ดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลซึ่งเป็นฉบับแก้ไขที่เป็นข้อสรุปร่วมกันของทั้ง 2 พรรคการเมืองหลักของสหรัฐฯ ได้รับความเห็นชอบจากในหลักการ จากระดับผู้นำของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต
ความเห็นชอบในหลักการดังกล่าวก็คือ ยินยอมให้รัฐบาลสามารถขยายเพดานการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นอีก 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่กำหนดเพดานการก่อหนี้ไว้ที่ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพดานการก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้รัฐบาลสามารถมีเงินมาใช้จ่าย รวมถึงชำระหนี้ไปจนถึงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ส่วนในด้านการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลนั้นมีจำนวน 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแยกกันระหว่างงบประมาณด้านการป้องกันประเทศและที่ไม่ใช่การป้องกันประเทศ นอกจากนี้ก็ยังจะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษขึ้นหาศึกษาเพื่อหาทางตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลงอีก
เมื่อข้อสรุปในหลักการที่เป็นความเห็นชอบร่วมกันของ 2 พรรคการเมืองหลักนี้ยังเป็นความเห็นชอบในระดับผู้นำพรรค ดังนั้น ณ เวลานี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้นำพรรคทั้ง 2 คนที่จะต้องไปทำความเข้าใจให้บรรดาลูกพรรคเห็นชอบด้วย
ผู้นำพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลและคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา เปิดเผยว่า ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ส่วนในด้านผู้นำพรรครีพับลิกัน ซึ่งคุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรนั้นถือว่าต้องรับศึกหนัก เพราะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหน้าใหม่กลุ่มหนึ่งยังคงยืนกรานไม่ยอมขยายเพดานการก่อหนี้ให้รัฐบาลโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม ผู้นำของทั้ง 2 พรรค รวมตลอดถึงผู้สันทัดกรณี ต่างก็เชื่อมั่นว่า การลงมติของทั้ง 2 สภา ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบ และวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) ตามเวลาในสหรัฐฯ ก็จะไปถึงมือของนายบารัก โอบามา
เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) นายโอบามาออกมาระบุว่าเขาไม่ค่อยชอบร่างรอมชอมของฝ่ายนิติบัญญัตินี้ แต่เพื่อไม่ให้สหรัฐฯ ต้องกลายเป็นชาติผิดนัดชำระหนี้ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) ตรงกับวันที่ 2 ส.ค.ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวันถึงกำหนดชำระหนี้ของรัฐบาล นายโอบามาก็ระบุว่า เขาจะลงนามรับรองในตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย