"ไม่ถึงขนาดนั้น คนอาจจะไปตีราคาว่าต่าตัวผมอย่างงั้นอย่างงี้ เมื่อวานก็มีคนมาถามว่าค่าตัวผมระดับนู้นระดับนี้ ผมบอกไม่ใช่หรอกครับ ค่าตัวผมไม่ได้แพงแบบนั้น" ปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ (บอย) โอดครวญว่าไม่ได้ฟันค่าเหนื่อยมากถึงงานละ 200,000 แสนบาท อย่างที่หลายคนเข้าใจ แถมให้เหตุผล "ค่าตัวแพง ใครจะจ้างบ่อยๆ" ซึ่งก็สมเหตุผล เพราะถ้าไปดูตารางออกอีเว้นต์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม พระเอกคนดังวิ่งงานรัวๆ 9 วันติด
ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ว่างแค่วันเดียวเท่านั้น คิวแน่นเอี้ยดพอๆกับช่วงพีคสุดๆ สมัยเข้าวงการ มีทั้งงานที่ติดต่อมาก่อนเป็นเดือนๆ และที่เยอะคืองานด่วนแบบรู้ตัวก่อนอาทิตย์เดียว แต่ก็รับได้หมดเพราะช่วงนี้ไม่มีคิวถ่ายละครให้ต้องกังวล พร้อมยืนยันคงสโลแกน "ค่าตัวเท่าเดิม เพิ่มเติมคือใจดีลดให้ด้วย"
“เดือนนึงถ้าถ่ายละครเรื่องเดียวก็มีเวลารับอีเว้นต์บ้าง ซึ่งจะไม่กระจุกเท่านี้ เป็นวัฏจักรที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว บางช่วงจะอีเว้นต์เยอะ จะมีพี่ๆมาถามว่าช่วงนี้งานเยอะมากเลยนะ บางช่วงไปถ่ายละครก็บอกหายไปเลย มันเป็นแบบนี้ ช่วงนี้เจอผมเยอะ เดี๋ยวถ่ายละคร ผมก็อาจจะหายไปบ้าง” ปกรณ์ กล่าว
ปฏิเสธเรื่องค่าตัวชัดเจนขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่วายถูกเม้าท์ว่าเป็นพระเอกค่าตัวแพงที่สุดติด 1 ใน 5 เจ้าตัวเลยขอใช้พื้นที่สื่อยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
สื่อด้านการตลาดของไทย Positioning Magazine เคยเจาะลึกเรื่องการรับงานพรีเซนเตอร์ของพระเอกมาดกวนคนนี้ มาตั้งแต่ปี 2555 และติดโผ 10 อันดับแรก เจ้าพ่อพรีเซนเตอร์เมืองไทยที่ทำเงินสูงสุดทุกปี ยาวมาจนถึงปีนี้ก็ยังกวาดหมด ทั้งรถยนต์ เครื่องสำอางค์ ขนม หมากฝรั่ง ธนาคาร หรือแม้แต่พรีเซ็นเตอร์งานการกุศลแฟนๆ ก็เห็นกันจนชิน เปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา แค่ต้องรู้จักเลือกให้เป็น
“อย่างแรกต้องดูโปรดักว่าติดกับสัญญาที่เราเป็นพรีเซนเตอร์หรือเปล่า ถ้าไม่ติดก็รับได้ ถ้าสินค้านั้นมันไม่ใช่สินค้าที่ผิดกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับอบายมุข ก็รับได้ ไม่แน่ใจว่าในสังกัด นอกสังกัด ราคาต่างกันอย่างไร แต่ผมสังกัดช่อง 3 ราคาจะถูกกำหนดโดยช่อง 3” ปกรณ์ กล่าว
เรื่องค่าตัวของคนดังเป็นที่พูดถึงเสมอ ยิ่งถ้าใครออกงานพร้อมกันเป็นแพ็คคู่ หรือ ขนมาทั้งครอบครัว การอัพค่าตัวว่าจะสูงขึ้นกี่เท่าก็เป็นสิ่งที่สื่อพุ่งความสนใจ ประเด็นดังที่มาพร้อมความนิยมของดารา อาจพิสูจน์ได้ถึงกระแส แต่ก็ต้องมาพร้อมการวางตัว และภาพลักษณ์ที่คงเส้นคงวาด้วยเหมือนกัน