วันนี้ (3 เม.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงานสัปดาห์หนังสือปีนี้ มีหนังสือน่าสนใจมากมาย หนึ่งในนั้นคือ หนังสือ “พ่อแม่รู้พวกหนูต้องโอ” ของคู่รัก ปาณิสรา อารยะสกุล (โอปอล์) สมิทธิ์ อารยะสกุล (หมอโอ๊ค) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อคำว่าครอบครัว เจอบทพิสูจน์หนักๆ โดยเฉพาะช่วงที่โอปอล์ตั้งครรภ์
หนังสือ "พ่อแม่รู้พวกหนูต้องโอ" มีลักษณะเป็นหนังสือความรู้ก็ไม่ใช่ How to ไม่เชิง เพราะพลิกอ่านแล้วอาจทำน้ำตาไหลได้ ด้วยเรื่องราวสุดดราม่าที่เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะช่วงโอปอล์เจอภาวะคลอดก่อนกำหนด หมอโอ๊คเล่าว่าต้องทำหัวใจให้แกร่ง เป็นเสาหลัก ดูแลอย่างดีสองเดือนเต็ม คุณหมอสั่งโอปอล์ห้ามขยับตัว จะกิน นอน ขับถ่าย อยู่บนที่นอนเท่านั้น เพราะเป็นทางเดียวที่จะยื้อชีวิตลูกๆ รวมทั้งมีช่วงบีบหัวใจ คือ ตอนที่โอปอล์รับยากระตุ้นหัวใจ จนร่างกายแทบทนไม่ไหว
“เพื่อเป็นวิทยาทานให้คนรู้ว่า นี่คือเด็กที่คลอดก่อนกำหนด มีรูปลักษณะแบบนี้ เขาต้องฝ่าฟันกับเรื่องอะไรบ้าง อลิน - อลัน เสี่ยงกับการตาบอด หายใจเองไม่ได้ จะมีสมองที่กระทบกระเทือน เวลาปอเดินไปไหนจะมีคนเข้ามาถามว่า ลูกคลอดก่อนกำหนดให้นมอย่างไรและมีวิธีดูแลอย่างไร ปอรู้สึกว่ามีหลายคนที่เจอเรื่องแบบปอ แล้วไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เราอยากให้มันเป็นเหมือนคู่มือ และเป็นกำลังใจ เพราะรู้ว่ามันไม่ง่าย” ปาณิสรา กล่าว
“จริงๆ ผมก็เหมือนคุณพ่อคุณแม่ทั่วไป เวลามีชีวิตแต่งงานชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความคาดหวัง เราก็อยากประสบความสำเร็จ อยากมั่งคั่งร่ำรวย แต่ว่าเรื่องทั้งหมดมันตกผลึกให้เรารู้ว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดของการมีชีวิต คือการมีชีวิต” สมิทธิ์ กล่าว
“คนเป็นพ่อ แม่ เขาไม่ต้องรอความผูกพันว่าต้องเลี้ยงดู เอาลูกมากอด มาหอม เรารู้สึกมันคือสัญชาติญาณของพ่อแม่ที่แม้จะยังไม่เห็นหน้าก็ทำทุกอย่างเพื่อเขา” นิติ –ป๋อมแป๋ม กล่าว
สำหรับการมีส่วนร่วมของหนังสือเล่มนี้ ทั้งสองแบ่งหน้าที่กันชัดเจน โอปอล์เขียนถึงประสบการณ์ส่วนตัว ส่วนหมอโอ๊คเน้นข้อมูลวิชาการที่เป็นประโยชน์กับคนอ่าน ตามประสาคุณหมอ ลืมไม่ได้คือต้องใส่กำลังใจเยอะๆ ประโยคเด็ดที่หมอโอ๊คบอกว่าช่วยเปลี่ยนความคิดเลยคือ "คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้มแข็ง คิดในแง่ดี มีพลังที่จะไปเจอลูกทุกวัน ไม่ใช่ไปนั่งร้องไห้หรือจมอยู่กับปัญหา"
ความน่ารักของครอบครัว โอปอล์-หมอโอ๊ค ทำให้มีแฟนๆ จำนวนมาก ยอดติดตามอินสตาแกรมของแม่โอปอล์มากกว่า 4 ล้าน ส่งผลให้อลิน - อลัน เข้าขั้นเป็นซุปตาร์ตัวน้อยอีกคู่ที่เริ่มมีงานอีเว้นท์ทักทายเข้ามา แต่คุณพ่อคุณแม่ขอปฏิเสธไปก่อน เพราะเน้นดูแลเรื่องสุขภาพล้วนๆ รอทั้งคู่อายุซัก 2 ขวบค่อยว่ากัน
“ไม่ได้วางแผนไว้เลย ว่าเขาต้องทำนั่นนี่และมีชื่อเสียงอย่างไร จะหาเงินจากมันอย่างไร ทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาต ,มีคนติดต่อมาเยอะมาก แต่ไม่รับ รับแค่งานฟรีงานเพื่อนสงสารลูก ,อยากให้เขาโตอย่างไม่กดดันกับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้ามีงานจริงๆ ก็ไม่อยากให้เป็นงานที่ฝืน แต่ถ้ามีงานจริงก็ไม่อยากให้เป็นงานที่ฝืน ,ปอเคยทำงานเบื้องหลัง ปอเป็นแคสติ้ง ปอดูแลนักแสดงเด็กเยอะ ปอรู้ว่าการเป็นแสดงเด็กมันลำบาก” สมิทธิ์ - ปาณิสรา กล่าว
สำหรับเคล็ดลับการเลี้ยง น้องอลิน-อลัน สไตล์ "โอป-โอ๊ค" ก็เป็นแบบง่ายๆ คือเน้นสอนพัฒนาการด้านอารมณ์และสร้างความรู้ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้เขาในวันที่โตขึ้น