เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.2560) ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 8 คน ที่ร่วมกับ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ก่อเหตุฉ้อโกงประชาชน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผลัดแรก 12 วัน โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนี และไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527
แม้ว่าญาติของผู้ต้องหา 2 ใน 8 คน จะนำหลักทรัพย์เป็นสลากออมสินคนละ 300,000 บาท มายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง อีกทั้งก่อนถูกจับกุม ผู้ต้องหาได้ร่วมกันหลบหนี และถ่ายเททรัพย์สินเพื่อมิให้ถูกจับกุม ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน เพราะเกรงจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยขั่วคราว
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาหญิง ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนผู้ต้องหาชาย ควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วน น.ส.พสิษฐ์ จะครบกำหนดฝากขังผลัดแรก 25 เมษายนนี้
ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา กว่า 30 คน แจ้งความตำรวจสถานีภูธรหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ ดำเนินคดี น.ส.พสิษฐ์ และเครือข่าย ฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน หลังไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
บุคลากรโรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ก่อนแจ้งความ มีอดีตบุคลากรโรงพยาบาลที่ลาออกไปทำงานกับซินแสโซกุน เข้าชักชวนบุคลากรโรงพยาบาล ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในราคาถูก ทำให้บุคลากรโรงพยาบาลจำนวนมากหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน เพื่อไปท่องเที่ยว กระทั่งทราบว่าบริษัทซินแสโซกุน หลอกลวงประชาชน หลังมีประชาชนจำนวนมากจ่ายเงินเพื่อท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ได้เดินทาง จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี