วันนี้ (21 เม.ย.2560) ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.4177/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช.เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค.2552 และวันที่ 17 ต.ค.2552 จำเลยได้ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการถ่ายทอดสด ผ่านช่องพีเพิลแชนแนล กล่าวหา นายอภิสิทธิ์ โจทก์ ทำนองว่า การบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กู้ยืมเงินมาเพื่อทุจริตคดโกง มีการหยิบยกเรื่องสถาบันมากล่าวอ้าง และกล่าวหาว่าเป็นผู้หน่วงเหนี่ยวคำร้องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ล่าช้า รวมถึงสั่งทหารฆ่าประชาชน ปล้นอำนาจจากประชาชน และไม่ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในโครงการต่างๆ
ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุกนายอริสมันต์รวม 2 กระทงๆ ละ 6 เดือน เป็นจำคุก 12 เดือน แต่การกระทำนั้นมีเหตุการณ์ที่กล่าวพาดพิงสถาบันด้วยศาล จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษและให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์มติชนกับเดลินิวส์ติดต่อกัน 7 วันโดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา ซึ่งนายอริสมันต์จำเลยได้ยื่นฎีกาสู้คดี
อย่างไรก็ดี วันนี้ เป็นการอ่านคำพิพากษาให้ฝ่ายโจทก์ฟัง หลังจากที่ศาลอาญาส่งคำพิพากษาฎีกาคดีนี้ให้ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านให้นายอริสมันต์ จำเลย ฟังไปก่อนแล้ว เนื่องจากนายอริสมันต์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษ คดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ตัดสินจำคุก 4 ปีจากการชุมนุมบุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
ด้านนายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ทนายความของนายอริสมันต์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ในส่วนของนายอริสมันต์นั้น ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านผลคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทฯ นี้ให้นายอริสมันต์รับทราบแล้วตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ ส่วนตัวนายอริสมันต์ขณะนี้ถูกคุมขังในเรือนจำพัทยา เนื่องจากยังไม่ได้ประกันตัวระหว่างการยื่นฎีกาคดีคลิฟบีช ดังนั้น ถ้าหากคดีคลิฟบีช ซึ่งได้ยื่นฎีกาต่อสู้คดีคลิฟบีชแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นประกันตัว ดังนั้น ขณะนี้การรับโทษตามผลคำพิพากษาฎีกาคดีหมิ่นประมาทฯนี้ จะต้องรอดูก่อนว่าผลคดีคลิฟบีช ก่อน