วันนี้ (23 เม.ย.2568) BBC รายงานถึง บรรยากาศความโศกเศร้าและความเคารพปรากฏขึ้นที่วาติกัน เมื่อพระศพของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้นำคริสตจักรคาทอลิกที่ได้รับความรักจากผู้ศรัทธาทั่วโลก ถูกอัญเชิญจากที่พำนักส่วนพระองค์ในวาติกันไปยังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าถวายความเคารพเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนพิธีศพในวันเสาร์นี้ (27 เม.ย.2568)
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยพระชนมพรรษา 88 ปี หลังทรงประชวรด้วยโรคปอดอักเสบทั้ง 2 ข้างและเส้นเลือดในสมองแตก
ขบวนอัญเชิญพระศพเริ่มต้นในเช้าวันนี้ โดยมีพระคาร์ดินัลในชุดสีแดงและนักบวชในชุดขาว เดินนำพระโลงที่เปิดฝา ผ่านจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งมีผู้ศรัทธาราว 20,000 คนมารวมตัวกัน ตามรายงานของสื่อวาติกัน เสียงระฆังดังก้องทั่วจัตุรัส ขณะที่ฝูงชนส่งเสียงปรบมือ ซึ่งเป็นธรรมเนียมของอิตาลีเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้จากไป
ขบวนไว้อาลัยใช้เวลาเกือบ 40 นาที ก่อนที่พระศพจะถูกประดิษฐานที่แท่นบูชาของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ โดยมี ทหารสวิสการ์ด ซึ่งรับผิดชอบความปลอดภัยของพระสันตะปาปา เดินคุ้มกันอย่างสมเกียรติ
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งทรงเป็นผู้นำคริสตจักรคาทอลิกคนแรกจากลาตินอเมริกา ดำรงตำแหน่งมา 12 ปี ทรงเป็นที่รักจากความถ่อมตน ความเมตตา และการสนับสนุนกลุ่มชายขอบ เช่น ผู้อพยพและผู้มีความหลากหลายทางเพศ ผู้ศรัทธาที่มาร่วมไว้อาลัยสะท้อนความผูกพันอันลึกซึ้งต่อพระองค์
หลุยส์และมาเกรนา คู่บ่าวสาวจากเม็กซิโกที่มาโรมเพื่อฮันนีมูน บอกกับ BBC ว่า เดิมที พวกเขาหวังจะได้พบพระสันตะปาปาฟรานซิส เพื่อรับพรสำหรับคู่แต่งงานใหม่ แต่การได้มาร่วมพิธีนี้ทำให้รู้สึกใกล้ชิดพระองค์ หลุยส์กล่าวว่าพระสันตะปาปาฟรานซิสคือผู้ศักดิ์สิทธิ์ และจะทรงอวยพรเราจากสวรรค์
ส่วน แมรี เอลเลน ชาวอเมริกันที่อาศัยในอิตาลี เดินทางด้วยรถไฟข้ามคืนเพื่อมากล่าวคำอำลา พร้อมระบุโป๊ปเป็นผู้ถ่อมตน ใจดี รักผู้อพยพ และต่อสู้กับอำนาจในวาติกันเพื่อเป็นคริสเตียนที่แท้จริง เธอวางแผนจะสวดภาวนาขอให้พระสันตะปาปาช่วยงานของเธอที่เกี่ยวกับผู้อพยพเมื่อผ่านพระโลง
พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะประดิษฐานที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เพื่อให้ประชาชนเข้าเฝ้าถวายความเคารพจนถึงเย็นวันศุกร์ (26 เม.ย.2568) โดยเริ่มให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 11:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ผู้คนเริ่มรวมตัวตั้งแต่เช้า และมีผู้ศรัทธาหลายร้อยคนเข้าร่วมขบวนอัญเชิญพระศพ
พิธีศพที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 เม.ย. จะจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปา ซึ่งทรงกำชับไว้ล่วงหน้าว่าต้องการพิธีที่สมถะ สะท้อนรสนิยมอันเรียบง่ายของพระองค์ โดยมีผู้อุปถัมภ์ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผู้นำและบุคคลสำคัญจากทั่วโลก รวมถึง นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ และ เจ้าชายวิลเลียม จะเข้าร่วมพิธี
แตกต่างจากพระสันตะปาปาส่วนใหญ่ พระสันตะปาปาฟรานซิสจะไม่ถูกฝังในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แต่จะประดิษฐาน ณ โบสถ์ที่อุทิศแด่พระแม่มารีในใจกลางกรุงโรม ใต้แผ่นหินสลักเพียงชื่อของพระองค์
ก่อนการอัญเชิญพระศพ พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประดิษฐานในโลงเปิดที่โบสถ์น้อยภายในที่พำนัก Casa Santa Marta โดยมีทหารสวิสการ์ดและคาร์ดินัลสวดภาวนาคุ้มกัน การปรากฏพระองค์ครั้งสุดท้ายต่อสาธารณชนคือในวันอีสเตอร์ จากรถเข็นพระองค์ทรงกล่าวถ้อยแถลงสั้น ๆ ต่อฝูงชนในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ก่อนทรงทักทายผู้ศรัทธาและอวยพรเด็กทารกขณะประทับรถยนต์ผ่านฝูงชน
หลังการสิ้นพระชนม์ ห้องพักของพระสันตะปาปาถูกปิดผนึกด้วยขี้ผึ้ง ตามธรรมเนียม Sede Vacante หรือ "บัลลังก์ว่าง" ซึ่งจะดำเนินต่อไปจนกว่าคริสตจักรจะเลือกผู้นำคนใหม่ การจากไปของพระสันตะปาปาฟรานซิสทิ้งความโศกเศร้าไว้ในใจผู้ศรัทธา แต่ความรักและความหวังที่ท่านมอบให้ยังคงเป็นแสงสว่างในอนาคตของคริสตจักร
อ่านข่าวอื่น :
ทรัมป์ถอย! ส่งสัญญาณลดภาษีจีน สงครามการค้าส่อผ่อนคลาย
Apple-Meta โวย! EU สั่งปรับ 700 ล้านยูโร ฐานผูกขาดตลาดดิจิทัล