วันนี้ (17 พ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดอกออเว่ะ หรือดอกเสื้อลาหู่ ที่ส่งมาจากกลุ่มชาติพันธ์ลาหู่ทั่วประเทศ ถูกนำไปวางไว้ที่บริเวณด่านตรวจรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อรำลึกครบรอบ 60 วัน การเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่
นายไมตรี จำเริญสุขสกุล ผู้อุปการะนายชัยภูมิ ป่าแส กล่าวว่า ยังค้างคาใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารตัดสินใจเหนียวไกวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ เนื่องจากมีหลักฐานเป็นภาพวงจรปิด แต่ผ่านมากว่า 60 วัน ก็ยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยกับญาติได้ ทั้งนี้ หากพบภายหลังว่านายชัยภูมิ กระทำผิดจริงตามข้อกล่าวหาที่ระบุว่าพยายามใช้ระเบิดมือสังหารเจ้าหน้าที่ หลังตรวจพบยาบ้าจำนวนหนึ่งในรถยนต์เก๋ง ตนเองก็พร้อมจะยอมรับคำตัดสิน
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่าคดีวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส แบ่งเป็น 4 สำนวน คือ 1.สาเหตุการเสียชีวิต 2.คดีที่นายชัยภูมิกับเพื่อนถูกกล่าวหาว่ามียาเสพติด และมีเครื่องกระสุนวัตถุระเบิด 3.ถูกกล่าวหาว่าต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และ 4.คดีที่เจ้าพนักงานใช้อาวุธปืนยิงชัยภูมิจนเสียชีวิต ล่าสุดได้ส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดเชียงใหม่แล้ว 1 สำนวน คือ การสอบสวนการตาย ส่วนเรื่องยาเสพติด คาดว่าจะส่งสำนวนให้อัยการได้ภายใน 2 สัปดาห์ เนื่องจากเพื่อนของนายชัยภูมิถูกฝากขังอยู่ แต่คดีที่ถูกกล่าวหาว่าต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ได้สิ้นสุดลงเพราะนายชัยภูมิเสียชีวิตแล้ว
สำหรับภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางกลุ่มญาติต้องการให้มีการเปิดเผยเพื่อความกระจ่างในคดีนี้ พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทหารนำฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ส่งให้พนักงานสอบสวนแล้ว ขณะนี้ส่งต่อไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อดำเนินการตรวจสอบ