วานนี้(8มิ.ย.2560) พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. กล่าวว่า การเข้าพบมหาเถรสมาคม วันที่ 20 มิ.ย.นี้ พลต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ประธานกับคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ยังไม่ยืนยันว่าจะมีการหารือถึงข้อเสนอการปรับแก้กฎหมายคณะสงฆ์ ที่กำหนดให้วัด ต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สิน และเปิดเผยต่อสาธารณะหรือไม่
ผอ.พศ.ยอมรับว่าขณะนี้ ยังไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้วัดต้องจัดทำบัญชี และเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่กรณีทุจริตเงินวัดวังตะวันตก จ.นครศรีธรรมราช จนนำไปสู่การฆ่าและฝังศพสามเณร ศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี หรือ สามเณรปลื้ม ภายในวัด เป็นอีกกรณีตัวอย่างของปัญหา ที่ไม่มีระบบการตรวจสอบทรัพย์สินของวัด และหากสงฆ์ไม่สามารถดำเนินการแก้ปัญหานี้ได้ ฝ่ายบ้านเมือง ก็อาจเข้าไปดำเนินการ
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ระบุว่า กรณีสามเณรปลื้มถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทุกฝ่ายไม่สามารถนิ่งเฉยและปล่อยให้ ไม่มีการตรวจสอบการบริหารจัดการทรัพย์สินภายในวัดได้อีกเพราะแม้จะเคยมีมติมส.ให้วัดซึ่งเป็นนิติบุคคล กว่า 35,000 พันแห่ง ส่งบัญชีทรัพย์สิน รายรับ รายจ่ายทุกปีแต่กลับมีวัดไม่ถึง 200 แห่งที่ดำเนินการ หรือไม่ถึงร้อยละ 1
มีรายงานว่า คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เตรียมเดินสายไปรับฟังความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง พศ. เพื่อประกอบการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ทั้งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1622 และ 1623 รวมถึงพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เพื่อกำหนดกติกาให้มีการตรวจสอบการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดได้