วันนี้(9 มิ.ย.2560) พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือพศ. ยอมรับว่า จากการตรวจสอบของตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปช. พบว่ามีวัด 12 แห่ง ทุจริตเงินอุดหนุนวัดจริง และได้เร่งสั่งตรวจสอบในทุกขั้นตอนแล้ว โดยในแต่ละปี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะได้รับงบประมาณ 5,000 ล้านบาทในจำนวนนี้เป็นเงินอุดหนุนวัด ถึงกว่า 4,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 87 ของงบประมาณทั้งหมด และยังพบว่าเงินจำนวนนี้ถูกทุจริตไปมากที่สุด
โดยเงินอุดหนุน 4,000 ล้านบาทจะถูกแบ่งออกไปใช้ 3 ประเภท คือ บูรณปฎิสังขรณ์วัด ให้การศึกษาพระสงฆ์ และสุดท้ายเผยแพร่กิจกรรมทางศาสนา จากการตรวจสอบพบว่า มีการทุจริตเงินบูรณปฎิสังขรณ์ในวัด 12 แห่ง กว่า 60 ล้านบาท
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อธิบายว่า ปัญหาช่องว่างระเบียบขั้นตอนการขอเงินอุดหนุน ตั้งแต่ปี 2556-2558 ที่ไม่รัดกุม ทำให้ง่ายต่อการทุจริต พศ.พบว่ามีข้า ราช การ เจ้าหน้าที่ พศ.ระดับจังหวัด เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตเดินเรื่องต่อรองเจรจาเงินส่วนต่าง หรือ เงินทอนกับวัดโดยตรง ก่อนยื่นเรื่องให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอนุมัติ
พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า ขณะนี้ พศ.ได้แก้ไขระเบียบขั้นตอนการขออนุมัติเงินอุดหนุนใหม่ปี 2558 โดยจะให้วัดยื่นหนังสือผ่าน พศ.จังหวัด เพิ่มคณะกรรมการตรวจสอบจากเดิมที่ไม่มี ก่อนที่จะอนุมัติเงินให้วัด ซึ่งเดิมอาจไม่ผ่านจังหวัด หรือ ผ่านจังหวัดก็ได้ เรียกว่าขั้นตอนจะมากขึ้นและมีการตรวจสอบมากขึ้น
ก่อนหน้านี้มีบางวัดของบประมาณบูรณปฎิสังขรณ์สูงถึง 10 ล้านบาท แต่การอนุมัติไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว และจะใช้เป็นดุลยพินิจของ เจ้าหน้าที่ พศ.ในการตัดสินใจ ทำให้บางวัดได้รับเงินอุดหนุน 4 - 5 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องจะได้เงินส่วนต่างจากการทุจริตมากถึงร้อยละ 70 หรือไม่ ต้องรอให้ตำรวจทำการตรวจสอบ หากพบเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง พศ.เกี่ยวข้อง จะลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง