กว่า 6 ปีที่พระเย็น โบว และพระสงฆ์ชาวกัมพูชา จำพรรษาที่วัดป่าอดุลยาราม จ.ขอนแก่น เพื่อประกอบกิจตามพระธรรมวินัย ควบคู่กับการศึกษาในระดับปริญาตรี และปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.วิทยาเขตขอนแก่น)
การทบทวนบทเรียนวิชาต่าง ๆ ให้กับพระรุ่นน้อง รวมทั้้งสอนภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เป็นอีกหน้าที่ของพระเย็น โบว ในฐานะพระรุ่นพี่ ที่อยากให้พระรุ่นน้องประสบผลสำเร็จในการศึกษา และท่านยังตั้งใจว่าหากเรียนจบ ก็จะกลับไปเป็นครูที่บ้านเกิด
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของกลุ่มพระสงฆ์ทั้งจากกัมพูชา ลาว เวียดนาม และบังคลาเทศ ซึ่งมาเรียนที่ มจร.ขอนแก่น ทำให้เกิดเครือข่ายพระสงฆ์อาเซียน ร่วมกันทำงานส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาของพระภิกษุสามเณร
พระตู้เหวียน ตรัน นักวิชาการศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการทำงานของเครือข่ายพระสงฆ์อาเซียน ตั้งใจว่าหลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานในประเทศไทย ก็จะกลับไปพัฒนาการเรียนของพระภิกษุสามเณรที่เวียดนาม หลังพบว่าชาวเวียดนามบวชเรียนน้อยลง
ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประเทศเพื่อนบ้าน ว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา มีพระสงฆ์ชาวต่างชาติจำนวนมากเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ของไทย การรวมกลุ่มของพระสงฆ์จากหลายประเทศ ทำให้เกิดเครือข่ายการพัฒนาการศึกษาพุทธศาสนา เพื่อเผยแพร่หลักธรรมคำสอน เชื่อมร้อยผู้คนในประเทศเพื่อนบ้าน