วันนี้ (6 ส.ค.2560) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเรือและอุปกรณ์เข้าไป ช่วยกู้บ้านของนายสำรวย เกิดบาง ชาวบ้าน ที่ล่มและจมในคลองบางพระหลวง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้บ้านเรือนแพ ล่มจมลงไปในน้ำ ส่งผลให้ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่อื่นๆ ยังขยายวงกว้างต่อเนื่อง
จ.ตาก ฝนที่ตกหนักทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเมย เพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนตลอดสองฝั่งชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะที่บ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเล่ย์ และบ้านหมื่นฤาไชย ต.พบพระ อ.พบพระ ที่ล่าสุดองค์การบริหารส่วนตำบลพบพระ ต้องประกาศเตือนประชาชน ให้ระวังอันตรายและเก็บสิ่งของมีค่าไว้ที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนน้ำชีที่ล้นตลิ่ง ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านใคร่นุ่น ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ทั้ง 89 หลัง ล่าสุดชาวบ้านต้องอพยพสิ่งของและเครื่องครัว ขึ้นมาทำอาหาร ริมถนน สายมหาสารคาม-กมลาไสย นอกจากนี้ น้ำยังเอ่อล้นไหลเข้าท่วมโรงเรียนบ้านใคร่นุ่นราษฎร์บำรุงด้วย ขณะที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยร่วมกับผู้นำท้องถิ่น ทยอยลำเลียงชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ออกมาจากหมู่บ้าน แต่ต้องประสบปัญหาเรือท้องแบนมีเพียงลำเดียว ทำให้การอพยพเป็นไปอย่างล่าช้า
เช่นเดียวกับ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำในแม่น้ำมูล ที่เกินความจุจนล้นตลิ่ง และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้วันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.2560) เจ้าหน้าที่จะติดตั้งเรือผลักดันน้ำ 30 ลำ บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อเร่งผลักดันน้ำ ลงสู่แม่น้ำโขง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมประกาศให้ 15 อำเภอ จากทั้งหมด 18 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
ขณะที่ภาคใต้ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในคลองอิปัน ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จังหวัดกระบี่ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนในพื้นที่ 4 ตำบลกว่า 30 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งลงสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือ ขณะที่ ชาวบ้านใน ต.ปกาสัย อำเภอเหนือคลอง เริ่มกลับเข้าบ้านทำความสะอาดได้แล้ว หลังระดับน้ำในคลองปกาสัย เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงเก็บทรัพย์ส่วนใหญ่ ไว้ในที่ปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง