วันนี้ (25 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม 6 อำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังไม่คลี่คลาย นี่เป็นผลโดยตรงจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบ บางจุดต้องสัญจรทางเรือเท่านั้น จากการสำรวจน้ำจากแม่น้ำน้อย เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านหมู่ที่ 9 ต.หัวเวียง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปี บางจุดท่วมสูงเกือบ 3 เมตร
นางพรทิพย์ สถิตย์ชัยธนกุล ชาวตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธา บอกว่า แม้จะเคยชินกับการอยู่กับน้ำ แต่ก็เผชิญความลำบากในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และกังวลว่าระดับสูงขึ้นอีก จึงขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง
"น้ำขึ้นสูงมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว ปกติจะค่อยๆ มา แต่รอบนี้น้ำขึ้นพรวดเดียว ยอมรับว่าลำบาก และยังไม่มีความชัดเจนจากหน่วยงาน ปีนี้ไม่ดีเลย"
ขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่เสียหายทั้งหมด 6 อำเภอ 76 ตำบล 375 หมู่บ้าน 15,987 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรทั้งหมด 451 ไร่ผักไฮน้ำท่วมเสียหาย 5,844 ครัวเรือน นอกจากนี้รองลงมาคืออำเภอเสนา 3,876 ครัวเรือน และรองลงมา คืออำเภอบางบาล ประชาชนเดือดร้อน 2,644 ครัวเรือน ประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา 270 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นผลมาจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากมีน้ำเหนือมาสบทบจากอิทธิพายุประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำก็จะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง
"กรมชล"ชี้พื้นที่น้ำท่วมอยู่นอกคันกั้นน้ำ
ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่า กรณีน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาใน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.บางปะอิน อ.ผักไห่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางไทร เนื่องจากการระบายน้ำของเขื่อนเข้าพระยานั้น สาเหตุเนื่องจากฝนตกหนักทำให้น้ำในลำน้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มในอัตรา 1,000 - 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยกรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้วางแผนและแจ้งเตือนเกษตรกรและประชาชน โดยผลกระทบเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ บริเวณพื้นที่ระหว่างตลิ่งกับคันกั้นน้ำ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้วอย่างทันที